ความรู้สึกต่อ 'ทรัมป์' กับผลกระทบเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ท่ามกลางความรุนแรงในสังคมอเมริกัน

A man holds a sign outside the University of Pittsburgh's Presbyterian Hospital before the arrival of President Donald Trump's motorcade in Pittsburgh, Oct. 30, 2018.

Your browser doesn’t support HTML5

Midterm Preview

การเมืองสหรัฐฯ ที่พรรครีพับลิกันและเดโมแครตกำลังขับเคี่ยวกันอยู่ในการหาเสียงขณะนี้ ทวีความเข้มข้นขึ้นไปอีกก่อนหน้าวันเลือกตั้งสมาชิกสภาในอังคารหน้า เมื่อบรรยากาศทางสังคมได้รับผลกระทบจากเหตุวุ่นวายและความรุนแรงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

การหาเสียงที่เผ็ดร้อนถูกตำหนิว่าอาจเป็นที่มาของความแตกแยกในสังคมอเมริกัน จนทำให้เกิดความสูญเสีย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 รายที่โบสถ์ชาวยิวในนครพิตส์เบิร์ก จากเหตุมือปืนกราดยิงเหยื่อผู้มาร่วมงานทางศาสนา และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประณามความรุนแรงนี้ว่าเกิดจากความเกลียดชังชาวยิว

และก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน พัสดุหลายชิ้นที่บรรจุวัตถุระเบิด ซึ่งจ่าหน้าซองถึงนักการเมืองเดโมแครตและผู้สนับสนุนพรรคนี้ ถูกส่งไปทางไปรษณีย์ ให้กับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศฮิลลารี คลินตัน อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ตกเป็นเป้าครั้งนี้ด้วย

US President Donald Trump and First Lady Melania Trump, alongside Rabbi Jeffrey Myers, place stones and flowers on a memorial as they pay their respects at the Tree of Life Synagogue in Pittsburgh, Pennsylvania

นักวิเคราะห์ จอห์น ฮูดัค (John Hudak) จากสถาบัน Brookings Institute ที่สหรัฐฯ กล่าวว่า “ประเทศกำลังอยู่ในช่วงแห่งความเจ็บปวด” เหตุการณ์แสดงความก้าวร้าวและความรุนแรงต่อคนอเมริกันด้วยกันเองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเกินไป

ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ ประเด็นที่ทั้งสองพรรคใช้หาเสียงจึงสร้างแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ

ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กำลังช่วยผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ว. ของพรรครีพับลิกันหาเสียงอยู่ ยังคงใช้นโยบายด้านคนเข้าเมืองที่แข็งขันเป็นเครื่องเรียกเสียงสนับสนุน

เขากล่าวขณะหาเสียงที่เมืองชาล็อตส์วิลล์ รัฐนอร์ธแคโรไลนาว่า “พรรคเดโมแครตสนับสนุนอย่างเปิดเผยให้คนต่างด้าวผิดกฎหมายนับล้านๆ คน ทำละเมิดกฎหมายการข้ามพรมแดนของสหรัฐฯ และเข้ามาทำลายเศรษฐกิจของประเทศจนล้มละลาย”

ฝ่ายเดโมแครตปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และมุ่งชูประเด็นเรื่องนโยบายดูแลสุขภาพคนในการหาเสียง

FILE - President Donald Trump greets supporters as he leaves the stage at the end of a rally in Wheeling, W.Va., Sept. 29, 2018.

และแม้การหาเสียงจะดึงสาระของนโยบายมาโน้มน้าวประชาชน ปัจจัยส่วนบุคคลยังคงมีความสำคัญไม่น้อย

การสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยสื่อ NPR และ PBS News Hour ร่วมกับหน่วยงาน Maris Poll พบว่า มากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กล่าวว่า มุมมองของพวกเขาที่มีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลต่อการใช้สิทธิ์ในวันที่ 6 พย.นี้

ทั้งนี้พรรคเดโมแครตถูกคาดหมายว่าจะได้ที่นั่งเพิ่มในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่พรรคต้องการได้เก้าอี้เพิ่มในสภาผู้แทนฯ 23 ที่นั่ง เพื่อพลิกกลับมาเป็นเสียงข้างมาก

สำหรับวุฒิสภานักวิเคราะห์ กล่าวว่า พรรครีพับลิกันน่าจะสามารถรักษาเสียงข้างมาก 51 ต่อ 49 เสียงในขณะนี้ อยู่ต่อไปได้

ตามสถิติ พรรคที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี มักเสียเก้าอี้ในสภาในการเลือกตั้งกลางเทอม

การเสียที่นั่งในสภาของพรรคที่คุมทำเนียบขาว อยู่ในระดับ 25 เสียงถึง 35 เสียง การเสียเก้าอี้อาจรุนแรงขึ้นหากว่าความนิยมในตัวประธานาธิบดีอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 50

ซึ่งในขณะนี้ ความนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่ร้อยละ 44 จากข้อมูลของเว็บไซต์ RealClear Politics

(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Jim Malone)