กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เดินหน้าฟ้องร้องชาวจีน 2 รายในข้อหาทำการเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูลด้านกลาโหม รวมทั้งรายละเอียดงานวิจัยเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส และเรื่องอื่นๆ
ตามข้อมูลของเอกสารที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องต่อศาลในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น จำเลยในคดีนี้คือ หลี่ เสี่ยวหยู และ ตง เจียจื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในกระบวนการจารกรรมข้อมูลเกี่ยวกับงานออกแบบอาวุธ ข้อมูลด้านยา รหัสต้นฉบับ หรือ ซอร์ซโค้ด (Source Code) และข้อมูลวิจัยโรคมะเร็ง รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2014 ถึงปี ค.ศ. 2020
ทั้งนี้ ข้อมูลการฟ้องของทางการสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้อง แต่ให้รายละเอียดว่า จำเลยทั้งสองทำการขโมยข้อมูลจำนวนหลายเทราไบต์ จากบริษัทหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย และเบลเยียม
เอกสารส่งฟ้องยังอ้างด้วยว่า จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างชั่วคราวแบบทำสัญญา หรือ contractor ของกระทรวงความมั่นคงของจีน ซึ่งมีสถานะคล้ายๆ กับ หน่วยงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ที่ทำการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับความอ่อนไหวของโปรแกรมและซอฟท์แวร์สำคัญๆ เพื่อทำการเจาะเป้าหมายที่ต้องการเพื่อรวบรวมข่าวกรองต่างๆ โดยเป้าหมายการจารกรรมข้อมูล มีทั้ง กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง สำนักงานขององค์ดาไลลามะ และองค์กรไม่แสวงผลกำไรของชาวจีนผู้นับถือศาสนาคริสต์
จอห์น ดีเมอร์ส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ว่า แฮ็กเกอร์มักจะปฏิบัติการต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับกรณีของ หลี่ เสี่ยวหยู ที่เชื่อว่าพยายามขู่เรียกเงินจำนวน 15,000 ดอลลาร์ในรูปของเงินดิจิทัลจากเหยื่อของตน
ดีเมอร์ส กล่าวด้วยว่า จีนได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศซึ่งให้ที่พักพิงแก่อาชญากรไซเบอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาให้ตนเองแล้ว