เมื่อวันพุธ จีนตำหนิประธานาธิบดีทรัมป์อย่างรุนแรงหลังจากที่ผู้นำสหรัฐลงนามในคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารเพื่อยกเลิกสถานะพิเศษด้านการค้าที่เคยให้กับฮ่องกง รวมทั้งได้ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายซึ่งผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการลงโทษกับบุคคลหรือสถาบันใดๆ ของปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงธนาคาร ที่วอชิงตันเชื่อว่ามีส่วนร่วมบั่นทอนสถานะอิสระของฮ่องกงด้วย
ในคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนซึ่งมีขึ้นในช่วงเช้าวันพุธหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเรื่องมาตรการลงโทษต่อจีนที่ทำเนียบขาวเพียงไม่กี่ชั่วโมง ปักกิ่งสัญญาว่าจะใช้มาตรการตอบโต้เพื่อแก้แค้นสหรัฐรวมทั้งกล่าวหารัฐบาลสหรัฐด้วยว่าก้าวก่ายแทรกแซงกิจการเรื่องฮ่องกงอย่างน่ารังเกียจ คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนในเรื่องนี้ระบุว่าการดำเนินการโดยสหรัฐครั้งนี้นับเป็นการให้ร้ายป้ายสีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ใช้ในฮ่องกงโดยมีเจตนาประสงค์ร้าย รวมทั้งละเมิดหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุด้วยว่ามาตรการลงโทษซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนั้นถือเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงกิจการของฮ่องกงและกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง
เมื่อเย็นวันอังคารตามเวลาในสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารยกเลิกสถานะพิเศษด้านการค้าที่ฮ่องกงเคยได้รับมานานกว่า 20 ปีเพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งเริ่มใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นมา โดยคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารเกี่ยวกับฮ่องกงนี้ยังระบุให้มีการใช้มาตรการลงโทษต่อเจ้าหน้าที่ของจีนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยหรือการจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนในฮ่องกงด้วย
ในส่วนของกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการลงโทษต่อบุคคลหรือสถาบันอื่นๆของจีนที่สหรัฐเห็นว่ามีส่วนบ่อนทำลายสถานะการปกครองตนเองอย่างอิสระของฮ่องกงนั้น
รัฐสภาสหรัฐเคยผ่านร่างกฎหมายลักษณะนี้มาก่อนแล้วแต่รัฐบาลสหรัฐเองได้ชะลอการบังคับใช้ด้วยเหตุผลข้อพิจารณาด้านนโยบายอื่นๆ ซึ่งรวมถึงเรื่องผลกระทบต่อข้อตกลงด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนด้วย อย่างไรก็ตามเป็นที่คาดได้ว่าหากวอชิงตันประกาศมาตรการลงใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่หรือสถาบันต่างๆ ของจีนโดยเฉพาะแล้ว ปักกิ่งจะตอบโต้ในลักษณะเดียวกันดังตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสหรัฐใช้มาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ของจีนสี่คนผู้เกี่ยวข้องกับการปราบปรามชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง ซึ่งในครั้งนั้นปักกิ่งก็ตอบโต้ในทำนองเดียวกันด้วยกันสั่งห้ามการเดินทางและใช้มาตรการลงโทษต่อสมาชิกของพรรครีพับลิกันในรัฐสภาสหรัฐหลายคนเช่นกัน
สำหรับคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารเกี่ยวกับฮ่องกงซึ่งสหรัฐประกาศยกเลิกการให้สถานะพิเศษด้านการค้านั้นผลโดยตรงที่เห็นได้ในขณะนี้คือผู้ถือหนังสือเดินทางของฮ่องกงจะเสียสิทธิ์พิเศษบางอย่างที่เคยได้จากสหรัฐ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนว่าคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารดังกล่าวจะมีผลต่อเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าจากฮ่องกงรวมทั้งการเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการเงินของฮ่องกงอย่างไร แต่เมื่อปีที่แล้วสหรัฐได้เปรียบดุลการค้ากับฮ่องกง 3 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์ซึ่งนับว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่ค้ารายอื่น นอกจากนั้นขณะนี้ยังมีบริษัทอเมริกัน 278 บริษัทซึ่งมีสำนักงานระดับภูมิภาคอยู่ที่ฮ่องกงและมีธุรกิจอเมริกันอีก 457 บริษัทที่มีสำนักงานสาขาอยู่บนเกาะฮ่องกงด้วยเช่นกัน