ตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ ปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

Envelopes from the Florida Department of Economic Opportunity Reemployment Assistance Program are shown, Nov. 5, 2020, in Surfside, Florida.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


รายงานล่าสุดจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ตัวเลขชาวอเมริกันผู้ยื่นเรื่องขอใช้สิทธิ์ว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบหนักต่อเนื่อง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวอเมริกัน 778,000 คนยื่นเรื่องแสดงตนเป็นผู้ว่างงาน โดยตัวเลขนี้เป็นการเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าราว 30,000 คน

ทั้งนี้ ตัวเลขคนว่างงานในสัปดาห์ล่าสุดนี้ต่ำกว่าระดับ 800,000 คนติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 แต่ว่ายังสูงกว่าสถิติสูงสุดที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 มาจนถึงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ตัวเลขล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์แบบติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ในเวลานี้ มีชาวอเมริกันว่างงานอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นอัตราว่างงานที่ 4.1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ล่าสุดนี้ดีขึ้นมากจากช่วงที่วิกฤตการระบาดรุนแรงสุดจนทำให้อัตราการว่างงานพุ่งถึงระดับ 14.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายน

แต่ด้วยอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐและเจ้าหน้าที่เขตต่างๆ จำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการจำกัดใหม่ๆ สำหรับกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีการเลิกจ้างงานเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้

ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผ่านกฎหมายช่วยเหลือรอบใหม่สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ก่อนสิ้นปี ซึ่งมาตรการต่างๆ น่าจะรวมถึง เช็คมูลค่า 1,200 ดอลลาร์สำหรับชาวอเมริกันจำนวนมากและแผนช่วยเหลือคนว่างงานจากรัฐบาลกลาง ที่จะมาเสริมเงินช่วยเหลือก้อนที่เล็กกว่าจากแต่ละรัฐ

แต่หลายฝ่ายคาดว่า โอกาสที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกมาตรการช่วยเหลือครั้งใหม่ก่อนว่าที่ปธน.ไบเดน เข้ารับตำแหน่งนั้นยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงเห็นต่างกันในเรื่องงบช่วยเหลืออยู่