'ทรัมป์' กล่าวหาอิหร่านละเมิดสัญญาด้านนิวเคลียร์-ขู่เพิ่มมาตรการลงโทษ

President-Trump-Hassan-Rouhani

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันพุธว่า อีกไม่นานตนจะสั่งให้เพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่า "ขู่กรรโชกด้านนิวเคลียร์" ด้วยการละเมิดสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ที่ทำไว้เมื่อ 4 ปีก่อนกับประเทศมหาอำนาจของโลก 6 ประเทศ

สหรัฐฯ เรียกร้องให้อิหร่านเปลี่ยนการตัดสินใจด้านนิวเคลียร์และยุติแผนทุกอย่างสำหรับการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ในอนาคต หลังจากที่อิหร่านเสริมคุณภาพแร่ยูเรเนียมเกินระดับที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ กล่าวว่าการเจรจากับอิหร่านยังคงเปิดกว้างอยู่เสมอโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ

ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวิตเตอร์ว่า อิหร่านได้แอบเสริมคุณภาพยูเรเนียมมานานแล้ว และว่าการจัดทำข้อตกลงด้านนิวเคลียร์มูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ ภายใต้อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคอร์รี ในสมัยประธานาธิบดีโอบาม่านั้น เป็นการสูญเปล่าโดยไร้ประโยชน์

อิหร่านกำลังเกิดความตึงเครียดกับสหรัฐฯ หลังจากรัฐบาล ปธน.ทรัมป์ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนำมาตรการลงโทษกลับมาใช้กับอิหร่าน โดยมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน เพื่อกดดันให้อิหร่านยอมเจรจาข้อตกลงฉบับใหม่

หลังจากการถอนตัวของสหรัฐฯ อิหร่านและประเทศที่ร่วมลงนามอีก 5 ประเทศ คือ รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และเยอรมนี ยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงดังกล่าวต่อไป แต่ทางอิหร่านระบุว่า ประเทศที่ยังเหลือในข้อตกลงนั้นไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยเพื่อพยุงเศรษฐกิจอิหร่านที่กำลังเผชิญการลงโทษจากรัฐบาลสหรัฐฯ เท่าที่ควร