ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเตรียมบุกจับคนเข้าเมืองผิดกฎหมายทั่วประเทศ

Immigration Police

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเเละศุลกากรแห่งสหรัฐฯ หรือ ICE จะเริ่มปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายทั่วอเมริกาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากเลื่อนมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และองค์กรเรียกร้องสิทธิของคนเข้าเมือง

ปฏิบัติการดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่ครอบครัวผู้อพยพมากถึง 2,000 ครอบครัว ใน 10 เมืองใหญ่ทั่วอเมริกา เช่น ฮิวสตัน ชิคาโก ไมอามี และลอสแองเจลีส ซึ่งมีคำสั่งขั้นสุดท้ายให้ถูกส่งตัวกลับประเทศ

ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเเละศุลกากรแห่งสหรัฐฯ บอกว่า แผนการส่งผู้อพยพผิดกฏหมายกลับประเทศอยู่ในการพิจารณามานานหลายเดือนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่ามีจุดมุ่งหมายทางการเมืองเป็นหลัก เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังแข่งขันหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปีหน้า

เมื่อเดือนที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ ประกาศทางทวิตเตอร์ว่า ปฏิบัติการบุกจับคนเข้าเมืองผิดกฎหมายนี้คือการเริ่มต้นของความพยายามส่งตัวชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้าสหรัฐฯ หลายล้านคนกลับประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ ได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวหลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ ส.ส.แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต

ทางรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเเละศุลกากรแห่งสหรัฐฯ หรือ ICE ที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง บอกว่า การบุกจับและส่งกลับประเทศเป็นมาตรการที่จำเป็นต่อการรักษาระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งครอบครัวผู้อพยพไม่สามารถหลีกเลี่ยงกฏหมายผู้อพยพได้ พร้อมแนะให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฏหมายยอมมอบตัวแก่ทางเจ้าหน้าที่โดยตรง

อย่างไรก็ตาม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เควิน แมคอาลีแนน (Kevin McAleenan) เตือนว่า การบุกจับกุมผู้อพยพถึงในบ้านหรือที่ทำงาน เพิ่มความเสี่ยงในการพรากเด็กจากอกพ่อแม่มากขึ้น