นโยบายด้านคนเข้าเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขและการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กฎเกณฑ์หลายเรื่องส่งผลต่อการปรับตัวและการใช้ชีวิตของกลุ่มคนเชื้อชาติต่างๆรวมทั้งชุมชนไทยในอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด
‘จะเป็นพวกนักเรียน เพราะว่าคนไทยที่อเมริกาเป็นนักเรียนเยอะ แล้วก็คำประกาศที่ออกมาเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องการคำนวนคนที่อยู่ที่นี่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะส่งผลกับคนไทยที่นี่เยอะเลย’
จิ๋ง' โปรดปราน เอี่ยวพานทอง ทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง เชื้อสายไทย ในรัฐเวอร์จิเนีย ให้สัมภาษณ์กับ 'วีโอเอ ไทย' เกี่ยวกับ ผลกระทบจากกฎระเบียบและเงื่อนไขด้านกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และส่งผลต่อกลุ่มนักเรียนนักศึกษาชาวไทยจำนวนมากที่กระจายกันศึกษาตามสถาบันต่างๆทั่วอเมริกา
ระเบียบคุม นร.ต่างชาติสุดเข้มลงทะเบียนเกิน ผิดกฎ หมดสถานะวีซ่าทันที!!
ทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง ย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคำนวณระยะเวลาการพำนักอาศัยในสหรัฐฯ และเงื่อนไขการรักษาสถานนภาพกลุ่มผู้ถือวีซ่านักเรียนที่มีแนวโน้มการบังคับใช้เข้มงวดมากขึ้น
‘ในอดีตคนที่เข้ามาเป็นนักเรียน ตอนที่เราเข้ามาในใบ I-94 บัตรขาเข้าจะเขียนว่า DS หรือ Duration of Status คนที่เข้ามาด้วยสถานะแบบนี้จะถือว่าคุณจะไม่อยู่ที่นี่ผิดกฎหมายจนกว่า 2 เหตุการณ์จะเกิดขึ้น คือ 1) คุณต้องมีคำสั่งศาลตัดสินว่าคุณอยู่ที่นี่อย่างผิดกฎหมาย หรือ 2) คุณไปยื่นขอสิทธิประโยชน์อะไรแล้วโดนปฏิเสธ นับจากวันนั้นถึงจะเริ่มนับ..
แต่ว่าตอนนี้คนที่เข้ามาในลักษณะนี้โดยไม่รักษาสถานภาพการเป็นนักเรียนที่ถูกต้อง..เช่นกรณีที่จะสามารถทำให้นักเรียนต้องกลายมาเป็นอยู่โดยไม่ถูกต้องมีเหตุเยอะแยะมากมาย เช่น ลงไปเรียนคอร์สแล้ว ออนไลน์คอร์สนั้นๆอนุญาตให้ลงได้กี่ชั่วโมง แต่ไปลงทะเบียนเกินก็ถือว่าผิดแล้ว หรือ ลงทะเบียนไม่ครบหน่วยกิต อะไรแบบนี้ นอกเหนือจากการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต’..
‘จริงๆแล้วในหลักของ F1 หรือวีซ่านักเรียนจะมี Reinstatement หรือการคืนสถานะ คือว่าถ้าหากสมมุติว่าเราหลุดออกจากสถานะภาพของนักเรียนแต่ไม่ใช่เป็นความผิดของเรา อย่างบางทีมีการผิดพลาดในการออกเอกสาร การบันทึกผิด เราก็สามารถจะยื่นไปแก้ไขสถานะเราให้เหมือนเดิมได้ ซึ่งก็ต้องมาดูคำนวนว่าระหว่างที่สถานะคุณขาดจนถึงวันที่คุณยื่นก็ถือว่าอยู่ผิดกฎหมายแล้ว’
ปรับสถานะในอเมริกา เอกสารไม่ครบอาจถูกส่งกลับ
ทนายความหญิง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ในรัฐเวอร์จิเนีย บอกกับ 'วีโอเอ ไทย' ด้วยว่า ไม่เพียงแต่ความเข้มงวดในการขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ เท่านั้นที่ แต่การยื่นเอกสารเพื่อปรับเปลี่ยนสถานะด้านคนเข้าเมืองของคนต่างชาติในสหรัฐฯก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
‘ต่อไปถ้าอิมมิเกรชั่นได้รับคำขอและเห็นว่าเราส่งเอกสารไม่ครบ เขาไม่สิทธิ์ที่จะปฏิเสธเคสโดยไม่ต้องขอเอกสารเพิ่ม แต่มันจะไม่จบแค่นั้นเพราะแนวนโยบายปฏิบัติใหม่ออกมาด้วยว่า เคสที่ถูกปฏิเสธให้ส่งเข้ากระบวนการฟ้องศาล ซึ่งก็เลยกลายเป็นแย่คูณสอง ดังนั้นในฐานะที่เป็นทนายเวลายื่นเคสออกไป ก็ต้องทำการบ้านก่อนมากขึ้น เพื่อไม่ให้ลูกความเรากลายเป็นอยู่ในสถานะต้องขึ้นศาลเตรียมตัวส่งกลับประเทศ (Deportation Removal Proceedings)’
ขอวีซ่านักลงทุน (E2) ก็ถูกเพ่งเล็งหนัก
เช่นเดียวกับการขอวีซ่าการลงทุนวีซ่าผู้ประกอบการค้าและนักลงทุนหรือ E2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขการต้องถูกพิจารณามากขึ้น
‘หลักของ E2 ธุรกิจที่ทำจะต้องมีผลประกอบการณ์มากกว่าจะมาเลี้ยงชีพเจ้าของกิจการ และมีกำไรมากพอที่จะจ้างงานคนอเมริกัน แต่ตรงนี้ในอดีตไม่ได้บังคับใช้ขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขาจะเพ่งเล็งมากขึ้น สัดส่วนของคนงาน อเมริกันมีมากน้อยแค่ไน ขนาดของธุรกิจเป็นแบบไหน ซึ่งจริงๆแล้วตามตัวบทกฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นธุรกิจขนาดไหน แต่มาในทางปฏิบัติก็จะมีการเพ่งเล็งตรงนี้มากขึ้น’
‘สำหรับผู้ที่มาลงทุนเบื้องต้นไม่มีใครเปิดใหญ่อยู่แล้ว เพราะว่าเขาอาจจะมาเปิดรัานที่หนึ่งเพื่อมาดูร้านที่สองที่สามจะเป็นยังไง การที่เขาเริ่มเปิดจากอะไรที่เขาสามารถบริหารได้ในครอบครัว ก็เป็นเรื่องปกติ แต่กลับกลายต้องมานั่งอธิบายให้ฟังว่าสิ่งนี้เป็นปกติ’
เผย 'เจฟ เซสชั่น' อยู่เบื้่องหลังนโยบาย ตม.สุดเข้ม
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯ บอกด้วยว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐสภาสหรัฐฯ หลังพรรคเดโมแครตเข้าครองเสียงข้างมากหลังการเลือกตั้งกลางเทอมที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบใดๆมากนัก ขณะที่การลาออกของนายเจฟ เซสชั่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอาจจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายคนเข้าเมืองได้เร็วกว่า
‘ดิฉันไม่เห็นว่าในทางปฏิบัติจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าตรงนี้กฎหมายไม่ได้เปลี่ยน มันอยู่ที่ผู้บังคับใช้กฎหมายก็คือฝ่ายบริหาร ซึ่้งก็คือมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำของฝ่ายบริหาร..นโยบายที่ออกมาทางอิมมิเกรชั่้นเป็นผลงานของเจฟ เซสชั่นล้วนๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากเขาไม่อยู่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว ก็หวังว่าคนที่ขึ้นมาแทนจะไม่โหดร้ายเท่านี้’