กระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนของสหรัฐฯ (HHS) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า จะบังคับให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขมากกว่า 25,000 คนต้องได้รับวัคซีนโควิด-19
ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ มีลูกจ้างมากกว่า 80,000 คน โดยข้อบังคับนี้จะมีผลกับลูกจ้างเกือบ 1 ใน 3 ซึ่งทำงานอยู่ในส่วนของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ (NIH) และสำนักงานสาธารณสุขสำหรับชนพื้นเมืองอินเดียน (IHS) ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยวัคซีนหรือมีโอกาสที่จะใกล้ชิดกับผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความเชื่อทางศาสนาที่ต่อต้านวัคซีนและผู้ที่มีอาการป่วยบางอย่างโดยเฉพาะ อาจได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับนี้ โดยผู้ที่ไม่ได้ถูกกำหนดให้ต้องฉีดวัคซีนก็ต้องแสดงผลตรวจเชื้อที่เป็นลบเป็นประจำด้วย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงทหารผ่านศึกสหรัฐฯ ได้ประกาศให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของกระทรวงฯ ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเช่นกัน และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็เพิ่งประกาศแผนฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ของกองทัพอเมริกันด้วย
แคลิฟอร์เนียบังคับครูและเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนให้ฉีดวัคซีน
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม ประกาศมาตรการใหม่ในวันพุธ โดยจะเริ่มกำหนดให้ครูและเจ้าหน้าที่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ของรัฐ ต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19 หรือต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบทุกสัปดาห์
แคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐแรกในอเมริกาที่ใช้มาตรการนี้ในขณะที่กำลังเกิดการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา
ส่วนที่รัฐโอเรกอน ผู้ว่าการเคท บราวน์ ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากขณะอยู่ภายในอาคารไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่ผู้ว่าการรัฐฮาวายประกาศคำสั่งจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการร้านอาหาร บาร์ และยิมต่าง ๆ เหลือเพียงครึ่งหนึ่งของความจุทั้งหมด รวมทั้งกำหนดให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากตลอดเวลายกเว้นเวลารับประทานอาหาร และจำกัดการชุมนุมของประชาชนในตัวอาคารไม่ให้เกิน 10 คน และชุมนุมกลางแจ้งไม่ให้เกิน 25 คน
ที่มา: วีโอเอ และเอพี