ผลการสำรวจของรอยเตอร์ส/อิปซอส เปิดเผยในวันอังคารว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญตำหนิการจัดการความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านกันมากขึ้น หลังการสังหารนายพลสุไลมานีของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันชาวอเมริกันส่วนใหญ่คาดว่าการเกิดสงครามนั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ
การสำรวจความเห็นของชาวอเมริกันของรอยเตอร์ส/อิปซอส เมื่อวันอังคาร ระบุว่า 53% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน ไม่เห็นด้วยกับวิธีการจัดการความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นถึง 9% จากการสำรวจเดียวกันเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปีก่อน ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อท่าทีของทรัมป์กับอิหร่าน อยู่ที่ 39% ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 10% จากเดือนที่แล้ว
สำหรับความเห็นของชาวอเมริกันต่อการจัดการความบาดหมางกับอิหร่านแตกต่างกันไป กล่าวคือ 90% ของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตคัดค้านการแก้ปัญหาของทรัมป์ ขณะที่ 80% ของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่ทรัมป์สังกัด สนับสนุนท่าทีของทรัมป์ต่ออิหร่าน
ในผลสำรวจล่าสุดนี้ยังบอกด้วยว่า คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงที่หลังเหตุสังหารอดีตนายพลสุไลมานี โดยผู้นำสหรัฐฯ ยังมีคะแนนนิยมอยู่ที่ 41% และอีก 54% ไม่ยอมรับผลงานของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้านการสำรวจอีกชิ้นจากรอยเตอร์ส/อิปซอส ยังพบว่าชาวอเมริกันเริ่มกังวลถึงความเสี่ยงว่าสหรัฐฯจะทำสงครามกับอิหร่านเพิ่มมากขึ้น โดยชาวอเมริกัน 41% มองว่าอิหร่านคือภัยใกล้ตัวของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% จากการสำรวจเดียวกันเมื่อปีก่อน และ 71% ของชาวอเมริกัน เชื่อว่าสงครามระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 20% จากการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ชาวอเมริกันในการสำรวจสนับสนุนให้สหรัฐฯ เป็นฝ่ายชิงโจมตีอิหร่านก่อนถึง 27% ขณะที่อีก 41% มองว่าสหรัฐฯไม่ควรโจมตีอิหร่านก่อน
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าว เก็บข้อมูล ชาวอเมริกันมากกว่า 1,000 คน เมื่อช่วงวันที่ 6-7 มกราคม หลังจากการสังหารอดีตนายพลกาส์เซม สุไลมานี แห่งกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ซึ่งยกระดับความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางขึ้นมาในช่วงนี้ โดยทางอิรักกดดันให้ถอนกำลังทหารออกจากประเทศ ขณะที่ชาวอิหร่านที่ไปร่วมพิธีฝังศพอดีตนายพลสุไลมานี ต่างเรียกร้องให้อิหร่านแก้แค้นสหรัฐฯ อย่างสาสม