ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่คนอเมริกันกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุุดปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการพบปะญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันอาทิตย์ ระบุว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 14.6 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 281,000 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคนในช่วง 5 วันคือตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละมากกว่า 2,000 คน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ตัวเลขนี้เป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าซึ่งคนอเมริกันหลายล้านคนเดินทางไปเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องในรัฐต่าง ๆ
ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประชาชนหลายล้านคนในแถบเซาธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนียและแถบซานฮาคีนวัลลีย์จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์รอบใหม่เริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์นี้ เช่นเดียวกับเขตปกครองต่าง ๆ อีก 5 แห่งในแถบนครซานฟรานซิสโก
มาตรการควบคุมชุดใหม่นี้รวมถึงการห้ามรับประทานภายในร้านอาหารต่าง ๆ การปิดโรงภาพยนตร์ ร้านทำผม สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการรวมตัวใกล้ชิดกันของลูกค้า นอกจากนี้ยังจำกัดการบริการของร้านซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ไม่ให้เกิน 20%
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า คำสั่งนี้มีขึ้นในขณะที่เตียงคนไข้ในฝ่ายดูแลผู้ป่วยพิเศษตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ลดลงเหลือไม่ถึง 15% ในขณะนี้
ที่รัฐแอริโซนา ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขของรัฐเตือนว่า ผู้ป่วยโควิด-19 กำลังล้นเกินกำลังของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่จะรองรับได้ กล่าวคือเหลือเตียงคนไข้ไม่ถึง 10% เท่านั้น โดยรัฐแอริโซนามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 6,800 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงที่สุดเป็นสถิติใหม่
เวลานี้ โรงพยาบาลในรัฐต่าง ๆ ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนทั้งอุปกรณ์และบุคลากรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากติดเชื้อโคโรนาไวรัส หรือตัดสินใจลาออกเพราะทนแรงกดดันจากการที่ต้องดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ไหว