Your browser doesn’t support HTML5
สมาชิกพรรค Republican ที่กำลังแข่งขันหาเสียงเพื่อจะได้เป็นตัวแทนของพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีหน้า ในเวลานี้ไม่มีใครเรียกร้องความสนใจและคะแนนนิยม ได้เท่ากับนาย Donald Trump เศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ที่หันมาสนใจการเมือง
นักธุรกิจที่กลายมาเป็นนักการเมืองคนนี้ เผยแพร่แผนเรื่องคนอพยพเข้าเมืองออกมาในสัปดาห์ที่แล้ว และประเด็นที่มีการพูดถึงกันมาก คือข้อเสนอของเขาที่จะให้ยุติการถือสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติสำหรับบุคคลที่ถือกำเนิดในประเทศ
คำถามก็คือ การจะแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นบทแก้ไขรัฐธรรมนูญบทหนึ่ง จะทำได้หริอไม่ และยากง่ายแค่ไหน?
บทแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐฉบับที่ 14 รับประกันสิทธิ์ในการถือสัญชาติอเมริกันให้แก่ผู้ที่เกิดในประเทศ แม้บิดามารดาจะเป็นผู้อพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายก็ตาม
ความมุ่งหมายเริ่มแรกของบทแก้ไขรัฐธรรมนูญอายุเกือบ 150 ปีฉบับนี้ คือการให้สัญชาติแก่ทาสในอเมริกาที่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระหลังสงครามกลางเมือง
ในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว มีสหรัฐและแคนาดาเท่านั้นที่อนุมัติสิทธิ์ในเรื่องนี้ อีก 31 ประเทศที่ให้สิทธิ์ดังกล่าวอยู่ในแถบทะเลแคริบเบียน ละตินอเมริกา และอเมริกาใต้
ในขณะที่หลายประเทศ รวมทั้งออสเตรเลียเพิกถอนกฎหมายที่อนุมัติสิทธิ์ในเรื่องนี้ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
นาย Donald Trump ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการให้สัญชาติโดยอัตโนมัติ และเรียกเด็กเกิดในสหรัฐที่มีบิดามารดาเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายว่า “anchor babies” หรือ “ทารกสมอเรือ” ซึ่งหลายคนเห็นว่าเป็นคำสบประมาท
มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรค Republican หลายคนที่เห็นด้วยกับนาย Donald Trump โดยเฉพาะนาย Jeb Bush ซึ่งใช้คำศัพท์เดียวกันเรียกเด็กชาวเอเชียที่มารดาเดินทางไปคลอดบุตรในอเมริกาเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน ว่าเป็นการกระทำทุจริตที่มีการจัดองค์กรเพื่อฉกฉวยประโยชน์จากแนวคิดที่สูงส่ง
เมื่อต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐได้เปิดเผยโครงการที่เรียกว่า “maternity tourism” หรือ “ทัวร์คุณแม่” ซึ่งผู้หญิงชาวต่างชาติฐานะดี โดยเฉพาะผู้หญิงจีน เดินทางไปคลอดบุตรในอเมริกาเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน
ผู้นำชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียได้เรียกร้องให้นาย Jeb Bush ออกมากล่าวขอโทษ
ได้มีการแสดงความคิดเห็นทางกฎหมายกันในเรื่องนี้มาก และศาสตราจารย์ Suzanna Sherry ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Vanderbilt ในรัฐ Tennessee บอกว่า นาย Donald Trump มีทางเลือกสองทาง ถ้าจะทำตามคำพูดในเรื่องนี้ คือแก้ไขบทแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 หรือโน้มน้าวให้ศาลสูงสุดของประเทศตีความกฎหมายฉบับนี้ใหม่
กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐมีข้อกำหนดไว้ว่า บทแก้ไขจะต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากถึงสองในสามจากรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
จากนั้นสามในสี่ของรัฐต่างๆทั้งห้าสิบรัฐ หรือ 38 รัฐจะต้องลงมติให้ความเห็นชอบด้วย
สำหรับทางเลือกที่สองนั้น นักกฎหมายผู้นี้กล่าวว่า แม้ศาลสูงจะไม่เคยต้องพิพากษาตัดสินในเรื่องนี้มาก่อน แต่ภาษาที่ใช้ในบทแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 นั้น ไม่คลุมเครือเลย
นักกฎหมายอีกคนหนึ่ง ศาสตราจารย์ Polly J. Price ของมหาวิทยาลัย Emory ในเมือง Atlanta รัฐ Georgia ให้ความเห็นว่า การแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ จะทำความยุ่งยากทางด้านการบริหารอย่างมาก เพราะจะทำให้คนอเมริกันทุกคนต้องหาเอกสารพิสูจน์สัญชาติของบิดาหรือมารดาเวลายื่นขอใบขับขี่ หรือเลขประจำตัวการประกันสังคม ซึ่งทำได้ไม่ง่ายเลย ถ้าบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างชาติ และมาจากประเทศที่จะยื่นขอเอกสารในเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายๆ
ก็ต้องรอดูว่า เมื่อใกล้เวลาการเลือกตั้งในปีหน้า เรื่องนี้จะยังเป็นประเด็นอยู่หรือไม่?