นาย Donald Trump กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่าตนเองชื่นชมผู้หญิง นายทรัมป์ผ่านการแต่งงานมาแล้วสามหน เขากล่าวว่าตัวเองว่าจ้างผู้หญิงเข้าทำงานหลายพันตำแหน่งในธุรกิจต่างๆ และชี้ว่าผู้หญิงเป็นนักบริหารที่เก่งกาจ
นาย Trump เป็นหนึ่งในผู้ลงชิงชัยเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีหน้า เขาได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับผู้แข่งขันคนอื่นๆ ในผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ลงคะแนนเสียงที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันหลายชิ้น
ล่าสุดนาย Trump กลายเป็นเป้าของเสียงวิจารณ์รอบใหม่อีกเพราะใช้วาจาไม่สุภาพต่อผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงจาก FOX News ที่ถามนายทรัมป์ในระหว่างการโต้อภิปรายถึงคำพูดของเขาที่ไม่เคารพต่อผู้หญิงหลายครั้งหลายครา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นาย Trump กล่าวโต้ด้วยคำพูดที่เปรียบเปรยว่ามีเลือดออกมาจากตาและจากทุกส่วนของร่างกายนักข่าวสาวคนนั้น ซึ่งคนทั่วไปแปลความว่า นายทรัมป์กล่าวเปรียบเปรยว่าเป็นประจำเดือนของผู้ประกาศสาว
หนึ่งวันหลังจากการอภิปรายดังกล่าว นาย Trump กล่าวปัดว่าตนไม่ได้หมายความอย่างที่คนฟังเข้าใจแต่หมายความถึงเลือดจากจมูก แต่นาง Carly Fiorina ผู้สมัครหญิงคนเดียวในพรรครีพับบลิกันที่ลงชิงตำแหน่งเดียวกันนี้ กล่าวว่าคำพูดของนาย Trump ต่อนักข่าวหญิงคนนี้ทำให้บรรดาผู้หญิงไม่พอใจเป็นอย่างมากและผู้สมัครคนอื่นๆ จากพรรคเดียวกันก็วิจารณ์นาย Trump ในเรื่องนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ นาย Trump บอกว่า หากตนเองทำอะไรผิดจะขอโทษเสมอ แต่ในกรณีนี้ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ก่อนหน้าการโต้อภิปรายสัปดาห์ที่แล้ว ผลการสำรวจความคิดเห็นหลายชิ้นชี้ว่า นาย Trump ได้คะแนนสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งที่สนับสนุนพรรคประมาณหนึ่งในห้าหรือมากกว่านั้น ซึ่งสูงกว่านาย Jeb Bush อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริด้าสองเท่าตัวที่ลงชิงชัยในตำแหน่งนี้เช่นกัน
แรงหนุนต่อนาย Trump ดูจะยังไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด แม้เขาจะเจอเสียงวิจารณ์ที่เขาใช้คำพูดไม่เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องๆ อื่นอีกสองเรื่องก่อนหน้านี้ รวมทั้งการที่เขากล่าวว่าผู้อพยพย้ายถิ่นจากเม็กซิโกเป็นมาตรกรและอาชญากรข่มขืน
และเขายังแสดงความคิดเห็นด้วยว่าตนไม่ยกย่องให้วุฒิสมาชิก John McCain อดีตผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2008 ว่าเป็นวีรบุรุษ เพราะตกเป็นเชลยสงครามในเวียดนามถึง 5 ปี
(รายงานโดย Ken Bredemeier เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว)