สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเฉียดล้านล้านดอลลาร์! สูงสุดในรอบ 7 ปี

FILE- In this May 30, 2018, file photo the East Front of the U.S. Capitol in Washington is seen under stormy skies. On Tuesday, June 12, the Treasury Department releases federal budget data for May. (AP Photo/J. Scott Applewhite, File)

Your browser doesn’t support HTML5

Business News

ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้ว เป็น 984,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากภาษีลดลงเพราะนโยบายลดภาษีของทรัมป์ ขณะที่ยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในส่วนของการทหารและโครงการในประเทศ

สำนักงานงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ CBO คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ และจะอยู่ในระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ตัวเลขนี้ต่างจากสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์รับปากไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่งว่าจะลดยอดขาดดุลงบประมาณลงด้วยการลดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ประกอบกับการเพิ่มการจัดเก็บภาษี

ถึงกระนั้น รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเว่น มนูชิน กล่าวว่า โครงการเศรษฐกิจของทรัมป์นั้นใช้ได้ผล ทำให้อัตราการว่างงานลดลง และยอดงบประมาณก็มีเสถียรภาพในระยะยาว

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยขาดดุลสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์มาแล้วระหว่างปี 2009 - 2012 ในสมัยประธานาธิบดีโอบาม่า ซึ่งเป็นการใช้จ่ายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติการณ์การเงินครั้งใหญ่

แต่การขาดดุลงบประมาณในขณะนี้แตกต่างออกไป เพราะเกิดขึ้นในขณะที่อัตราการว่างงานต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่อง 11 ปีติดต่อกัน

จนถึงขณะนี้ ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยังไม่มีการพูดกันอย่างจริงจังเรื่องการลดยอดขาดดุลงบประมาณ ในขณะที่ผู้ชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า ก็พูดแต่เรื่องของโครงการประกันสุขภาพราคาถูกสำหรับทุกคน การเพิ่มสมัสดิการสังคมต่าง ๆ และการลดภาษีสำหรับบริษัทใหญ่ ๆ ซึ่งล้วนแต่จะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น