ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว แลร์รี คัดโลว์ (Larry Kudlow) ให้สัมภาษณ์กับรายการข่าว Fox News Sunday ในวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะเสนอให้ตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ลง 5% สำหรับปีงบประมาณ ค.ศ. 2020 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยจะส่งผลกระทบต่อทุกหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ
นายคัดโลว์ กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นการจัดทำงบประมาณที่ยากลำบาก เพราะจะมีการกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายซึ่งควรจะทำมานานแล้ว
คาดว่าส่วนที่มีโอกาสถูกตัดงบประมาณมากที่สุด คือโครงการภายในประเทศ และอาจรวมถึงสวัสดิการบางอย่างของภาครัฐ
ขณะเดียวกัน สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ จะของบประมาณเพิ่มอย่างน้อย 8,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโกด้วย
คาดว่าข้อเสนอตัดงบประมาณดังกล่าวจะถูกโต้แย้งอย่างหนักจากสมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันบางส่วน ที่จะนำไปสู่การต่อสู้กันในสภานานหลายเดือนเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้ต้องปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน 35 วัน
ปัจจุุบัน ระดับหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นสถิติใหม่ คือมากกว่า $22 ล้านล้านดอลลาร์ ตามการเปิดเผยของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบานลดภาษีของทรัมป์ มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ รวมทั้งการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมทั้งในส่วนของการใช้จ่ายภายในประเทศ และงบประมาณด้านการทหาร
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอเมริกันในระยะยาว และว่า ดอกเบี้ยที่เกิดจากหนี้ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์นี้ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีต้นทุนเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน