สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนเข็มแรกของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) ให้กับคนอเมริกันกลุ่มแรกในวันจันทร์
รัฐนิวยอร์กเริ่มฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยมีนางพยาบาลแซนดรา ลินเซย์ เป็นคนแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันจันทร์ แสดงความยินดีต่อสหรัฐฯ และต่อทั่วโลก หลังการฉีดวัคซีนเข็มแรกผ่านพ้นไป
เมื่อคืนวันอาทิตย์ ปธน.ทรัมป์ ทวีตว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวจะเข้ารับการฉีดวัคซีนในชุดต่อ ๆ ไป นอกเสียจากว่าจะมีความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมยืนยันว่าตนเองยังไม่มีกำหนดจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ในขณะนี้ แต่จะเข้ารับการฉีด "เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม"
นายแพทย์มอนเซฟ สลาอูอี หัวหน้าที่ปรึกษาของโครงการเร่งรัดวัคซีน "Operation Warp Speed" กล่าวกับรายการ “Fox News Sunday” ในวันอาทิตย์ว่า ชาวอเมริกันราว 100 ล้านคนอาจได้รับวัคซีนภายในเดือนมีนาคม โดยที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะได้ผล จำเป็นต้องฉีดทั้งสองเข็ม
นายแพทย์มอนเซฟ สลาอูอี กลาวด้วยว่า ประชากรอเมริกันราว 75% - 80% ต้องยินยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนจึงจะทำให้เกิด "ภูมิคุ้มกันหมู่" ขึ้นมาได้ ซึ่งเชื่อว่าสหรัฐฯ จะสามารถไปถึงจุดนั้นได้ในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน
เมื่อวันศุกร์ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA รับรองวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยวัคซีนนี้ต้องเก็บในห้องเย็นจัดที่มีอุณหภูมิระดับ -70 องศาเซลเซียส และมีประสิทธิผลราว 95% ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส โดยบุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้สูงอายุในสถานดูแลคนชราจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนชุดแรกที่มีจำนวนเกือบ 3 ล้านโดส
ศูนย์ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสะสม ณ วันจันทร์มากกว่า 16.2 ล้านคน เสียชีวิตแล้วเกือบ 300,000 คน