วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) เริ่มถูกนำขึ้นรถบรรทุกที่โรงงานของไฟเซอร์ในเมืองคาลามาซู รัฐมิชิแกน เพื่อส่งไปยังศูนย์แจกจ่ายวัคซีนในรัฐต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ และอาจเร่ิมการฉีดวัคซีนให้ประชากรอเมริกันกลุ่มแรกในวันจันทร์นี้
สตีเฟน ฮาห์น หัวหน้าสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า รถบรรทุกห้องเย็นจะเริ่มออกจากโรงงานของไฟเซอร์ในวันอาทิตย์พร้อมกับวัคซีนมากกว่า 184,000 โดส และคาดว่าจะมีคนอเมริกันราว 20 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโดสแรกภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม นายฮาห์นกล่าวกับรายการ “This Week” ทางสถานีข่าวเอบีซีว่า อุปสรรคสำคัญคือมีชาวอเมริกันราว 1 ใน 4 หรือถึงประมาณครึ่งหนึ่งที่ยังลังเลกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค แม้ว่าจะผ่านการรับรองจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แล้วก็ตาม
ด้านพลเอกกุสตาฟ เพอร์นา หัวหน้าโครงการวัคซีน Operation Warp Speed ของรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ว่า บริษัทขนส่งจะนำวัคซีนโควิด-19 ไปส่งยังศูนย์แจกจ่ายวัคซีนเกือบ 150 แห่งในวันอาทิตย์ และอีก 450 แห่งในวันพุธ
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าชาวอเมริกันราว 100 ล้านคนอาจได้รับวัคซีนภายในเดือนมีนาคม และการที่วัคซีนโควิด-19 จะได้ผล จำเป็นต้องฉีดทั้งสองเข็ม นอกจากนี้ประชากรราว 75% - 80% ต้องยินยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนจึงจะทำให้เกิด "ภูมิคุ้มกันหมู่" ขึ้นมาได้
ด้านผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ฟิล เมอร์ฟีย์ กล่าวกับเอบีซีเช่นกันว่า ช่วง 6 - 8 สัปดาห์จากนี้จะเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับการระบาดของโคโรนาไวรัส แต่เชื่อว่าคนอเมริกันทุกคนจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ภายในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม
ศูนย์ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสม ณ วันอาทิตย์มากกว่า 16.1 ล้านคน เสียชีวิตแล้วเกือบ 300,000 คน
เมื่อวันศุกร์ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA รับรองวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยวัคซีนนี้ต้องเก็บในห้องเย็นจัดที่มีอุณหภูมิระดับ -70 องศาเซลเซียส และมีประสิทธิผลราว 95% ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส โดยบุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้สูงอายุในสถานดูแลคนชราจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนชุดแรกที่มีจำนวนเกือบ 3 ล้านโดส
ซีอีโอของบริษัทไบโอเอ็นเทค กล่าวว่า "วัคซีนนี้จะช่วยรักษาชีวิตคนอเมริกันจำนวนมากและจะช่วยให้กลับสู่วิถีชีวิตปกติได้เร็วขึ้น"
กลุ่มที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ประชุมกันในวันเสาร์และมีคำแนะนำให้ใช้วัคซีนได้กับกลุ่มประชากรอายุเกิน 16 ปี โดยจะมีการหารือกันต่อไปก่อนที่จะรับรองว่าสามารถใช้กับประชากรอายุต่ำกว่า 16 ปีและกลุ่มสตรีมีครรภ์ได้ด้วยหรือไม่
นอกจากสหรัฐฯ หลายประเทศ ได้แก่ อังกฤษ แคนาดา บาห์เรน เม็กซิโก และซาอุดิอาระเบีย ได้รับรองให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์กับประชากรของตนได้แล้วเช่นกัน