Your browser doesn’t support HTML5
ธนาคารอเมริกันหลายๆ แห่งเริ่มใช้ซอฟต์แวร์เฝ้าระวังและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิชั่นเพื่อคอยจับตาดูผู้คนที่มาใช้บริการของตน คอมพิวเตอร์ วิชั่นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำความเข้าใจกับโลกที่เรามองเห็น
จากการตรวจสอบของสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวนี้ถูกใช้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้า เพื่อเฝ้าดูพนักงาน และเพื่อตรวจดูผู้คนที่นอนหลับอยู่ใกล้ๆ เครื่องถอนเงินอัตโนมัติหรือตู้ ATM
ธนาคารต่างๆ เช่น City National Bank of Florida และ JPMorgan Chase & Co ได้ทดลองใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและปัญญาประดิษฐ์ (AI) แล้ว การเติบโตของเครื่องมือ AI ในอุตสาหกรรมการธนาคารอาจส่งสัญญาณการแพร่กระจายของเทคโนโลยีนี้ไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
Bobby Dominguez หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยข้อมูลของธนาคาร City National Bank กล่าวว่าการที่สามารถเปิดใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้นั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ และว่าในเมื่อเราก็ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้กับโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว เราก็น่าจะนำมาใช้ในโลกความจริงได้
Dominguez กล่าวต่อไปว่าธนาคาร City National จะเริ่มทดลองใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในปีหน้าเพื่อระบุลูกค้าและพนักงาน โดยเขาได้เพิ่มซอฟต์แวร์ที่สามารถค้นหารายชื่อบุคคลควรระวังของรัฐบาลไว้ด้วย
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้สร้างความกังวลด้านสิทธิพลเมืองในหมู่คนจำนวนมาก โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจับกุมผู้บริสุทธิ์ที่เทคโนโลยีนี้ได้ระบุตัวผิดๆ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวถูกใช้อย่างไม่เป็นสัดส่วนในชุมชนที่ยากจนและเป็นชนกลุ่มน้อย นักวิจารณ์กล่าวอีกว่าเทคโนโลยีนี้ยังส่งผลให้สูญเสียความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ในปีนี้ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ห้ามไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในที่สาธารณะ และ Rite Aid ธุรกิจด้านร้านขายยาได้ปิดโครงการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าลงเมื่อปีที่แล้ว
Fredrik Nilsson รองประธานบริษัท Axis Communications ซึ่งผลิตกล้องวงจรปิดกล่าวว่าคำถามสำคัญสำหรับบรรดาธนาคารต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ก็คือ ประชาชนจะตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
Dominguez กล่าวว่าตัวเขาเองและเจ้าหน้าที่ธนาคารคนอื่นๆ ก็เป็นห่วงถึงความกังวลของลูกค้า และว่าทางธนาคารจะไม่มีวันที่จะทำตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าได้หากใช้เทคโนโลยีนี้
JPMorgan ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เริ่มใช้เทคโนโลยีการเฝ้าระวังในปี 2019 อดีตพนักงานผู้หนึ่งกล่าวว่าทางธนาคารได้ค้นหาวิดีโอและภาพถ่ายเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า
โดยในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าลูกค้าผู้ชายมักจะมาธนาคารก่อนหรือหลังอาหารกลางวัน ส่วนลูกค้าผู้หญิงจะมาในช่วงบ่าย ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดใหญ่ทางบริษัทจะใช้ภาพจากวีดีโอเพื่อดูว่าลูกค้าผู้หญิงหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในขณะที่ใช้ตู้เอทีเอ็มหรือไม่ ซึ่ง JPMorgan กล่าวว่าทางธนาคารจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวางแผนชั่วโมงการทำงานให้กับพนักงานและในการออกแบบธนาคารได้ดีขึ้น
พนักงานปัจจุบันคนหนึ่งของ JP Morgan กล่าวว่าอีกไม่นานทางธนาคารจะทดสอบใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้ากับลูกค้าเมื่อเข้ามาที่ธนาคาร แต่ลูกค้าเหล่านั้นจะต้องยินยอมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบนี้ด้วย
ทั้งนี้ JPMorgan จะใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวเพื่อประเมินว่าพนักงานใช้เวลาอย่างไรบ้าง หรือใช้ในการระบุจำนวนลูกค้าที่ออกไปจากธนาคารเนื่องจากต้องต่อคิวยาว และดูว่าลูกค้าใช้เวลาในการทำธุรกรรมนานแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารยังกล่าวด้วยว่าการจดจำใบหน้า เชื้อชาติ และเพศ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบนี้