ยูเอ็น เร่งกระบวนการช่วยเหลือพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กมาริอูโพล

UKRAINE-CRISIS/AZOVSTAL-EVACUATION

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เร่งกระบวนการช่วยพลเรือนชาวยูเครนออกจากโรงงานเหล็กในเมืองมาริอูโพลและพื้นที่อื่น ๆ ในเมืองท่าแห่งนี้ ขณะที่ นักรบยูเครนยืนหยัดต้านการรุกรานของกองทัพมอสโกไม่ให้เข้ายึดเมืองนี้โดยสมบูรณ์อยู่ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

การเร่งอพยพพลเรือนของยูเอ็นที่กระทำผ่านอุโมงค์ต่าง ๆ ใต้โรงงานเหล็ก อซอฟตาล และจากพื้นที่ทั่วเมืองในวันศุกร์เกิดขึ้น ขณะที่ การสู้รบระหว่างกองกำลังยูเครนและกองทัพรัสเซียเริ่มรุนแรงขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต้องการจะรวบรัดการต่อสู้ในเมืองมาริอูโพลให้เสร็จสิ้น เพื่อประกาศชัยชนะให้ชาวรัสเซียใน “วันเฉลิมฉลองชัยชนะ” (Victory Day) ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดแห่งชาติที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย

การประเมินครั้งล่าสุดชี้ว่า นักรบชาวยูเครนราว 2,000 คนยังคงตั้งมั่นอยู่ภายในเครือข่ายอุโมงค์และหลุมหลบภัยใต้โรงงานเหล็กดังกล่าวอยู่ โดยยืนยันว่า จะไม่ขอยอมแพ้

ทางการยูเครนเปิดเผยว่า พลเรือนหลายร้อยคนยังคงหลบภัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และหลายคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการสู้รบที่รอบ ๆ โรงงานและในเมืองมาริอูโพลมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนระบุว่า ยูเอ็นได้เริ่มขั้นตอนอพยพรอบที่ 3 จากโรงงานและพื้นที่เมืองท่าแห่งนี้แล้ว แต่ในวันศุกร์ ยูเอ็นไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดของกระบวนการนี้ ซึ่งเหมือนกับเมื่อตอนทำการอพยพครั้งก่อนหน้า

คาเทรินา โพรโกเพนโก ภรรยาของผู้บัญชาการกองทหาร อซอฟ ที่ยึดโรงงานเหล็ก อซอฟตาล เป็นที่มั่นอยู่ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือบรรดานักรบทั้งหลายที่ เดนิส โพรโกเพนโก ผู้เป็นสามีของบัญชาการอยู่ โดยระบุว่า ทุกคนยินดีที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 เพื่อรอให้สงครามยุติลง แต่จะไม่ยอมแพ้ต่อรัสเซียเป็นอันขาด เพราะนั่นจะหมายถึง “ค่ายนักโทษ คุก การทรมาน และความตาย”

โพรโกเพนโก บอกกับผู้สื่อข่าวเอพีทางโทรศัพท์ ในวันศุกร์ว่า หากไม่ใครยื่นมือเข้าช่วยกองทหารนี้ สามีของเธอและนักรบทุกคน “จะขอสู้ต่อไปจนถึงวาระสุดท้าย”

ในส่วนของกระบวนการอพยพที่ยูเอ็นเป็นผู้ดำเนินการนั้น รายงานข่าวระบุว่า อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะทราบว่า ทุกอย่างประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะผู้อพยพออกจากเมืองมาริอูโพลนั้นต้องเดินทางผ่านจุดที่มีการสู้รบและด่านตรวจมากมายก่อนจะเดินทางถึงจุดปลอดภัยในเมืองซาปอริซ์เชีย (Zaporizhzhia) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 230 กิโลเมตร

ผู้ที่หลบหนีออกมาจากโรงงานเหล็ก อซอฟตาล เล่าให้เอพีฟังถึงสถานการณ์อันน่ากลัวที่ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม ภายในหลุมหลบภัยใต้ดินอันมืดมิด และมีอาหารและน้ำเหลือไม่มาก พร้อม ๆ กับความหวังอันริบหรี่ และบางคนบอกว่า ตนรู้สึกผิดที่ทิ้งคนอื่นไว้เบื้องหลัง

ขณะเดียวกัน นักรบที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวส่งโทรเลขออกมาในวันศุกร์ ที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียยิงโจมตีใส่รถอพยพใกล้ ๆ โรงงาน ขณะที่ ตัวรถกำลังเคลื่อนตัวไปรับพลเรือน โดยมีนายทหารเสียชีวิต 1 ราย และอีก 6 รายได้รับบาดเจ็บ

เอพีรายงานว่า กรุงมอสโกไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการรายงานข่าวการสู้รบรอบใหม่ในวันศุกร์ด้วย

และก่อนที่วันเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือกองทัพนาซีเยอรมันเมื่อปีค.ศ. 1945 หรือ Victory Day จะมาถึงในวันจันทร์หน้า คนงานของเทศบาลเมืองมาริอูโพลและอาสาสมัครออกมาร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่เมือง ซึ่งถูกรัสเซียควบคุมไว้ได้เกือบหมดแล้ว

หากเมืองมาริอูโพลทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ยูเครนจะสูญเสียเมืองท่าสำคัญของตนให้กับเครมลินที่จะสามารถสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับคาบสมุทรไครเมียที่ตนประกาศผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี ค.ศ. 2014 และยังจะเอื้อให้กองทัพรัสเซียส่งทหารไปทำการรบในพื้นที่อื่นของแคว้นดอนบาสที่เป็นเป้าหมายหลักของมอสโกได้

UKRAINE-CRISIS/AZOVSTAL

อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียยังไม่ประสบความสำเร็จในการรุกคืบพื้นที่อื่น ๆ ของยูเครน หลังสงครามครั้งนี้ดำเนินมากว่า 10 สัปดาห์แล้ว โดยยูเครนเปิดเผยในวันศุกร์ว่า กองทัพของตนสามารถสกัดการโจมตีของรัสเซียถึง 11 ครั้งในแคว้นดอนบาสและทำลายรถถังและรถหุ้มเกราะจำนวนหนึ่งไปได้ ขณะที่ ฝั่งรัสเซียยังไม่ได้ออกมายอมรับเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ดังกล่าว

  • ที่มา: เอพี