คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดง “ความกังวลอย่างมาก” ต่อคำตัดสินของศาลเมียนมาที่สั่งลงโทษ นาง ออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือน และ วิน มินต์ อดีตประธานาธิบดี ที่ถูกจับกุมตัวหลังกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ศาลเนปิดอว์ ในเมืองหลวงของเมียนมา มีคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า นาง ออง ซาน ซู จี และ อดีตปธน. วิน มินต์ มีความผิดในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และสั่งจำคุกทั้งคู่ เป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะลดลงเหลือ 2 ปีในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ภายหลังมีรายงานข่าวประเด็นดังกล่าวออกมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นได้ออกแถลงการณ์ประณามคำตัดสินดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนถ่ายตามระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาทันที โดยเนื้อความในแถลงการณ์ระบุว่า สมาชิกคณะมนตรีฯ นั้น “ขอยืนยันคำเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวทุกคนที่ถูกจับกุมโดยมิชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 เป็นต้นมา”
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังยืนยันการสนับสนุนสถาบันด้านระบอบประชาธิปไตยทั้งหลายและกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเมียนมา พร้อมระบุว่า ผู้ที่อยู่ในอำนาจควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และให้ “หาหนทางเจรจาอันสร้างสรรค์และการปรองดองที่เป็นไปตามจิตวิญญาณและสะท้อนผลประโยชน์ของประชาชนของเมียนมา พร้อมๆ กับการให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และการส่งเสริมหลักนิติธรรมไปด้วยกัน”
ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์ ข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบที่กองทัพเมียนมายื่นฟ้องต่อทั้งสองหนัง อ้างอิงถึงการที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ พรรคเอ็นแอลดี ที่ นาง ออง ซาน ซู จี เป็นหัวหน้าพรรค ส่งจดหมายถึงสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ในเมียนมา ให้อย่ายอมรับรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่นานหลังจากที่กองทัพได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ขณะที่ ข้อหาละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 นั้นถูกโยงไปถึงการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังมีการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ นาง ออง ซาน ซู จี และอดีตปธน. วิน มินต์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งสอง ก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินลงโทษ
ขณะเดียวกัน สภาบริหารแห่งรัฐของเมียน ซึ่งควบคุมโดยกองทัพ ยื่นฟ้องอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนไว้หลายสิบข้อหา ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงทั้งหมด นาง ออง ซาน ซู จี จะถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 100 ปี