ในวันจันทร์ ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนางออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมา เป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะลดลงเหลือ 2 ปีในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ซู จี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในการพิจารณาคดีแบบปิดที่ศาลในกรุงเนปิดอร์ ขณะที่อดีตประธานาธิบดี วิน มินต์ ถูกตัดสินจำคุกเช่นกัน
ทั้งนางซู จี และนายวิน มินต์ ถูกกองทัพเมียนมาควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และถูกฟ้องร้องในหลายข้อหานอกเหนือจากสองข้อหาดังกล่าว ซึ่งทั้งสองคนปฏิเสธทุกข้อหา
ทางด้านองค์กร Human Rights Watch และ Amnesty International ต่างออกมาประณามคำตัดสินนี้ โดยระบุว่าเป็นการโกหกหลอกลวง และเป็นความพยายามของรัฐบาลทหารเมียนมาที่จะกำจัดฝ่ายตรงข้ามและกดขี่เสรีภาพในเมียนมา
ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน มีแถลงการณ์ตำหนิคำตัดสินจำคุกนางซู จี ว่าเป็นการสบประมาทต่อประชาธิปไตยและความยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลทหารเมียนมาปล่อยตัวนางซู จี และนักการเมืองคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางซู จี ถูกตั้งข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ หลังจากที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ พรรคเอ็นแอลดี ที่เธอเป็นหัวหน้าพรรค ได้ส่งจดหมายถึงสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ในเมียนมา ให้อย่ายอมรับรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่นานหลังจากที่กองทัพได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน
ส่วนข้อหาละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 นั้นถูกโยงไปถึงการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังมีการระบาดของโควิด-19
ขิ่น มอน ซอว์ ทนายความของจำเลย กล่าวกับวีโอเอว่า มีแนวโน้มสูงที่จะมีการอุทธรณ์คำตัดสินแต่ยังคงไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ และว่า นางซู จี อาจถูกย้ายจากการกักบริเวณภายในบ้านพักในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ไปยังสถานที่กักกันของทางการ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพผู้นี้เคยถูกคุมขัง โดยในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1989 - 2010 นางซู จี ใช้เวลาเกือบ 15 ปีในสถานที่กักกันของกองทัพเมียนมา
สำหรับในครั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาได้ฟ้องนางซู จี ทั้งหมด 12 ข้อหา รวมถึงข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง ละเมิดกฏหมายปกปิดความลับของทางการ มีเครื่องมือสื่อสารครอบครองอย่างผิดกฏหมาย และใช้ที่ดินของรัฐในทางมิชอบ ซึ่งหากถูดตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อหา เธออาจต้องโทษจำคุกนานกว่า 100 ปี
อ่อง ทู เนียน นักวิเคราะห์การเมืองเมียนมา มองว่า การฟ้องนางซู จี ในหลายข้อหา เป็นวิธีการที่รัฐบาลทหารเมียนมานำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เธอกลับมามีอิทธิพลทางการเมืองได้อีกในอนาคต โดยเฉพาะคำตัดสินจำคุก 2 ปีในวันจันทร์ ก็อาจทำให้เธอไม่สามารถกลับมาลงสมัครเลือกตั้งได้ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่รัฐบาลทหารกำหนดไว้ในปี 2023 ได้ ประกอบกับอายุของนางซู จี เองที่ปัจจุบันเข้าสู่ขวบปีที่ 76 แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ผู้นี้เชื่อว่าในที่สุดแล้ว ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาจะหาวิธีไกล่เกลี่ยประนีประนอมกับนางซู จี เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในเมียนมาขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากเธอยังคงเป็นสัญลักษณ์ทางประชาธิปไตยสำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของเมียนมา แม้ว่าจะต้องถูกกันออกจากเกมการเมืองไปก่อนในช่วงเวลานี้
- ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวรอยเตอร์