องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM (International Organization for Migration) เปิดเผยข้อมูลในวันอังคารว่า มีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานในซูดานแล้วอย่างน้อย 334,000 คน นับตั้งแต่เกิดการต่อสู้ของทหารสองฝ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ ผู้นำเซาท์ซูดานประกาศว่า จะมีการหยุดยิงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้
IOM ระบุด้วยว่า มีผู้เดินทางออกจากซูดานไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วมากกว่า 100,000 คน โดยก่อนหน้านี้ยูเอ็นประเมินว่า สงครามกลางเมืองครั้งนี้จะทำให้มีผู้หลบหนีออกจากซูดานมากกว่า 800,000 คน
ราอูฟ มาโซอู รองผู้อำนวยการสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR (U.N. High Commissioner for Refugees) กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ คาดว่าจะมีประชาชน 815,000 คนเดินทางออกจากซูดานไปประเทศเพื่อนบ้าน 7 ประเทศ ในจำนวนนี้คาดว่าเป็นชาวซูดานราว 580,000 คน
This handout satellite photograph taken Apr. 28, 2023, and released by Maxar Technologies, shows a major crossing point at the Sudanese border of Argeen with Egypt. (AFP photo / Satellite image ©2023 Maxar Technologies)
การสู้รบระหว่างกองทัพบกซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) ยังคงดำเนินต่อไปในวันอังคาร แม้มีการขยายเวลาใช้ข้อตกลงหยุดยิง โดยทางการซูดานเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 500 คน และบาดเจ็บมากกว่า 4,000 คนตั้งแต่การต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน
มีรายงานว่า ทหารฝ่ายหนึ่งได้ยึดห้องทดลองด้านสาธารณสุขในกรุงคาร์ทูมเอาไว้ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่เก็บตัวอย่างเชื้อโรคติดต่อหลายชนิด เช่น เชื้ออหิวาตกโรค และวัตถุอันตรายอื่น ๆ ซึ่งองค์การอนามัยโลกกล่าวในวันอังคารว่า การยึดห้องแล็บนั้น "สร้างความเสี่ยงปานกลาง" ต่อการเกิดอันตรายด้านชีวภาพ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีซัลวา เคียร์ แห่งเซาท์ซูดาน ซึ่งเป็นผู้ประกาศว่า กองทัพบกซูดานและกองกำลัง อาร์เอสเอฟ เพิ่งตกลงที่จะทำการหยุดยิงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 4-11 พฤษภาคม กล่าวเน้นย้ำความสำคัญของการพักรบระยะยาวและการเสนอชื่อผู้แทนการเจรจาสันติภาพที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเข้าร่วมแล้ว แม้ว่า รายละเอียดของภาวะนี้ยังมีความกระจ่าง หลังทั้งคู่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระยะสั้นที่เพิ่งผ่านพ้นไปอย่างหนัก
ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต่างเพิกเฉยต่อข้อตกลงหยุดยิงที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถอพยพออกจากพื้นที่สู้รบได้อย่างปลอดภัยและเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศสามารถเข้าไปในซูดานได้ อย่างไรก็ตาม แม้การต่อสู้จะบรรเทาลงในพื้นที่หนึ่ง แต่ก็จะรุนแรงขึ้นในพื้นที่อื่นเช่นกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็น กล่าวกับสำนักข่าวเอพีในวันจันทร์ว่า ผู้นำทหารของทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะส่งผู้แทนไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อร่วมเจรจาหาทางออกในความขัดแย้งครั้งนี้
A boat with 1,687 civilians from more than 50 countries fleeing violence in Sudan, arrives at King Faisal navy base in Jeddah, Saudi Arabia, Apr. 26, 2023
สงครามกลางเมืองในซูดานทำให้รัฐบาลหลายประเทศเร่งนำพลเมืองของตนออกมาจากซูดาน
ในวันอังคาร กองทัพรัสเซียประกาศอพยพพลเมืองมากกว่า 200 คนออกจากซูดานโดยใช้เครื่องบินทหาร 4 ลำ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า ได้ส่งขบวนรถโดยสาร 3 ขบวนไปรับพลเมืองอเมริกันมากกว่า 700 คนไปส่งที่เมืองพอร์ตซูดานตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว และมีการใช้โดรนในการคุ้มกันขบวนรถดังกล่าวด้วย ก่อนที่จะโดยสารเรือต่อไปยังซาอุดิอาระเบีย จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันเดินทางออกมาแล้วกว่า 1,000 คน
- เนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์