ไอเออีเอ เผยรายงาน 'กังวลอย่างยิ่ง' ต่อความปลอดภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน

FILE - Director-General of the International Atomic Energy Agency (IAEA) Rafael Grossi speaks to reporters after his return from Ukraine where he and his team visited the Zaporizhzhia nuclear plant, at Vienna airport, in Schwechat, Austria, Sept. 2, 2022.

สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA (International Atomic Energy Agency) กล่าวในวันอังคารว่า "ยังมีความกังวลอย่างยิ่ง" ต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป ท่ามกลางการสู้รบอย่างหนักของรัสเซียและยูเครน

ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA และคณะผู้ตรวจสอบ ได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้จัดทำรายงานสรุปการตรวจสอบที่ระบุว่า "สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นไม่อาจต้านทานได้ หนทางที่ดีที่สุดในการรับรองความมั่นคงปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนแห่งนี้ รวมทั้งประชาชนโดยรอบ คือการยุติการต่อสู้ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด"

IAEA เปิดเผยว่า พบความเสียหายในวงกว้างที่โรงไฟฟ้าดังกล่าว แต่มิได้กล่าวหาว่าเป็นการกระทำของฝ่ายไหน ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวกันและกันว่าเป็นผู้ยิงจรวดและปืนใหญ่ใส่บริเวณไม่ไกลจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ที่ซึ่งรัสเซียครอบครองไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม

SEE ALSO: ทีมงานยูเอ็นเริ่มเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชียแล้ว

รายงานของ IAEA ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ ยืนยันว่า พบทหารรัสเซียและอุปกรณ์ทางทหารภายในโรงไฟฟ้า และมียานพาหนะของกองทัพรัสเซียจอดอยู่ในบริเวณโรงไฟฟ้าด้วย

IAEA ระบุว่า "บรรดาพนักงานของยูเครนที่ทำงานอยู่ที่นั่นภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ล้วนเต็มไปด้วยความเครียดและแรงกดดัน และมีจำนวนพนักงานที่จำกัด" และว่า "นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะคงอยู่ได้ในระยะยาว และอาจนำไปสู่ความผิดพลาดของมนุษย์ที่สร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้"

รายงานของ IAEA เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้ง และสร้างเสถียรภาพในบริเวณรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชีย รวมทั้งจัดทำมาตรการฉุกเฉินชั่วคราวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายที่โรงไฟฟ้าด้วย

หน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของยูเอ็นยังขอให้มีการจัดทำ "เขตปกป้องความมั่นคงปลอดภัยด้านนิวเคลียร์" รอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้ทันที ซึ่งคล้ายกับเขตปลอดทหารที่บรรดาผู้นำโลกต่างเรียกร้องให้เกิดขึ้น แต่ทางรัสเซียและยูเครนยังไม่ยอมปฏิบัติตาม

A view shows the Zaporizhzhia Nuclear Power Plant amid Russia's invasion of Ukraine, outside the city of Enerhodar in Ukraine's Zaporizhzhia region, Aug. 4, 2022.

IAEA กล่าวด้วยว่า แม้สถานการณ์ที่ซาปอริห์เชียจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนอีกสามแห่ง คือ คเมลนิตสกี, ริฟเน และเซาธ์ยูเครน ยังคงทำงานได้ตามปกติต่อไป

ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA มีกำหนดนำเสนอรายงานการตรวจสอบนี้ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งทาง IAEA บอกว่า มีผู้ตรวจสอบสองคนที่ยังอยู่ที่ซาปอริห์เชียเพื่อ "สังเกตสถานการณ์ต่าง ๆ และทำการประเมินส่วนบุคคลต่อไป"

เมื่อวันจันทร์ มีรายงานว่าเตาปฏิกรณ์ปรมาณูแห่งสุดท้ายที่ยังทำงานอยู่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชีย ปิดการทำงานแล้วสืบเนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย อ้างอิงจากการเปิดเผยของบริษัทการไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน เอเนอร์โกอะตอม (Energoatom)

รัฐมนตรีพลังงานของยูเครน เจอมาน กาลูชเชนโก ระบุในเฟซบุ๊กว่า บริษัทเอเนอร์โกอะตอมกำลังหาทางซ่อมแซมสายส่งพลังงานที่เชื่อมต่อกับเตาปฏิกรณ์ดังกล่าวโดยเร็ว แต่ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากการต่อสู้ที่ยังดำเนินไปรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้

  • ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์