สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเปิดเผยว่าสามประเทศในแอฟริกาคือ แทนซาเนีย มาลาวีและบุรุนดี มีแผนปฏิบัติการออกมาใช้เพื่อปราบปรามการค้าอวัยวะคนเผือกและบางประเทศกำลังจะประกาศแผนออกมาใช้
ทางสำนักงานแสดงการยกย่องเป็นพิเศษต่อแผน 5 ขั้นของมาลาวีที่เพิ่งประกาศออกมาใช้เมื่อเร็วๆนี้ เพราะเน้นการบังคับใช้กฏหมายใหม่ๆหลายฉบับที่ปกป้องคนเผือก
Your browser doesn’t support HTML5
us-africa-albinos
นาย Rupert Colville โฆษกแห่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่าดูเหมือนว่าทางการในแทนซาเนีย มาลาวีและบุรุนดีต่างมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเพื่อยุติการค้าขายอวัยวะของคนเผือกในประเทศของตน
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าแต่ยังต้องรอดูกันต่อไปว่า ความมุ่งมั่นจากฝ่ายการเมืองในทั้งสามประเทศนี้จะนำไปสู่การลดลงของปัญหาและช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนต่อการค้าขายอวัยวะของคนเผือกหรือไม่ เขากล่าวว่าจะพูดถึงผลดีได้ก็ต่อเมื่อไม่มีคนเผือกถูกตัดเอาอวัยวะหรือถูกฆ่าเพื่อตัดเอาอวัยวะไปขาย
ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้รับรายงานว่ามีคนกว่า 200 คนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายคนเผือกเพื่อตัดเอาอวัยวะ เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็ก รวมทั้งการฆ่าและตัดเอาอวัยวะของคนเผือกที่เกิดขึ้นใน 15 ประเทศระหว่างปีพุทธศักราช 2543 ถึงปี 2556 ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขของเหยื่อน่าจะน้อยกว่าที่เป็นจริงเพราะหลายกรณีไม่ได้รับการรายงานอย่างเป็นทางการ
FILE - Participants march towards Mnazi Mmoja grounds during Tanzania Albino Day celebrations in Dar es Salaam.
การค้าขายอวัยวะของคนเผือกที่โหดร้ายนี้มีสาเหตุจากความเชื่อผิดๆที่ว่าอวัยวะของคนเผือกมีเวทมนตร์ที่นำมาซึ่งความร่ำรวย การค้าขายอวัยวะคนเผือกยังขยายตัวเพราะสามารถสร้างรายได้จำนวนมากแก่ผู้ลักลอบค้า
คุณ Colville ยกตัวอย่างว่ามีชายในมาลาวีคนหนึ่งที่ได้รับเงินค่าจ้าง 6,500 ดอลล่าร์สหรัฐเพื่อลักพาตัวหลานสาวอายุ 11 ปีของตนเองไปเพื่อตัดเอาอวัยวะในร่างกายไปขาย ชายคนดังกล่าวถูกตัดสินให้จำคุกนาน 2 ปีและเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาสามคนที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการนี้
แทนซาเนียเป็นชาติที่มีเหตุฆ่าคนเผือกเพื่อตัดอวัยวะมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเลือกตั้งในแทนซาเนียกำหนดจะมีขึ้นในปลายเดือนตุลาคมนี้และดูเหมือนว่าจะเป็นตัวผลักดันให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น
ประธานาธิบดีแห่งแทนซาเนีย Jakaya Kikwete ได้สัญญาว่าจะยุติปัญหานี้และจะไม่ยอมให้เกิดการทำร้ายคนเผือกเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ในเดือนมิถุนายน ปีพุทธศักราช 2553 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติแผนป้องกันและต่อต้านการเลือกปฏิบัติกับความรุนแรงต่อคนเผือกเพื่อให้คนเผือกได้รับการปฏิบัติต่ออย่างเท่าเทียมในสังคม