ทางการยูเครนรายงานในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียเดินหน้ายิงปืนใหญ่ถล่มเมืองคาร์คิพจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บอีก 19 ราย
โอเลก ซิเนกูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ โอบลาสต์ เปิดเผยด้วยว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเด็ก ขณะที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนที่มีอาการสาหัส
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า กองกำลังรัสเซียยังคงทำการโจมตีประปรายตามแนวรบในแคว้นดอนบาสอยู่ โดยการประเมินสถานการณ์รายวันชี้ว่า รัสเซียน่าจะพยายามเข้ายึดโรงงานไฟฟ้า วูห์เลเฮียร์สกา ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองดอแนตสก์ หลังปรับเปลี่ยนยุทธวิธีมาให้ความสำคัญกับการยึดโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเป็นหลัก
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันพุธว่า กรุงมอสโกต้องการที่จะยึดครองพื้นที่นอกเหนือจากแคว้นดอนบาสของ และว่า ขณะนี้ รัสเซียไม่ได้รู้สึกว่าต้องจำกัดการรบให้อยู่ในเพียงแคว้นดังกล่าว ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งตนหนุนอยู่นั้นทำการสู้รบกับกองทัพยูเครนมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2014 หลังการผนวกคาบสมุทรไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
รมต.ลาฟรอฟ ยังบอกกับ สถานีโทรทัศน์ RT และสำนักข่าว RIA Novosti ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ ด้วยว่า “เวลานี้ ภูมิศาสตร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของดอแนตสก์และลูฮันสก์เท่านั้น แต่ยังเป็น เคอร์ซอน ซาปอริห์เชีย และอาณาเขตอื่น ๆ อีกหลายแห่งด้วย โดยทั้งหมดเป็นกระบวนการที่จะเดินหน้าต่อเนื่องไปอย่างไม่มีลดละ”
และในวันพุธเช่นกัน สหรัฐฯ ประกาศแผนที่จะส่งระบบยิงจรวดอีก 4 ชุดพร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่งไปให้ยูเครน
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า “กองกำลังยูเครนกำลังใช้ระบบยิงจรวดพิสัยไกล ซึ่งรวมถึง ระบบจรวดหลายลำกล้อง (High Mobility Artillery Rocket System – HIMARS) ของสหรัฐฯ และระบบอื่น ๆ จากพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” และว่า “นักรบของยูเครนกำลังทำการผลักดันผู้รุกรานจากรัสเซียในแคว้นดอนบาสอย่างหนักอยู่ด้วย”
พลเอก มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า ยูเครนได้ใช้เครื่องยิงจรวดหลายแบบที่สหรัฐฯ จัดส่งให้เพื่อโจมตีศูนย์บัญชาการและเส้นทางลำเลียงเสบียงของรัสเซีย ซึ่งรวมถึง สะพานที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่ใช้ข้ามแม่น้ำดนิโปร ในแคว้นเคอร์ซอนด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่า สะพานดังกล่าวได้รับความเสียหายเพียงบางส่วนและยังสามารถใช้เป็นเส้นทางขนส่งได้ต่อไป
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์