รัสเซียเริ่มกลับมาดำเนินยุทธศาสตร์ถล่มเหมันตฤดูของตน ด้วยการยิงขีปนาวุธเข้าใส่หลายพื้นที่ของยูเครนในวันจันทร์ โดยเป็นการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธร่อนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยยิงออกมาในระลอกเดียวและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและบาดเจ็บกว่า 30 ราย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า กองกำลังของตนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลและมีความแม่นยำสูงที่ยิงจากทั้งทางอากาศและทางทะเล ซึ่งรวมถึง ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “คินชาล” เพื่อโจมตีจุดที่เป็น “พื้นที่ตั้งของกลุ่มอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครน”
เจ้าหน้าที่รัฐบาลตะวันตกและนักวิเคราะห์หลายรายเตือนไว้แล้วว่า รัสเซียกำลังทำการสั่งสมขีปนาวุธร่อนเพื่อใช้โจมตีอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครนในช่วงฤดูหนาวนี้ ซึ่งต่างจากการพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานเมื่อฤดูหนาวที่แล้ว
ถึงกระนั้น ที่ผ่านมา รัสเซียมุ่งโจมตีแต่พื้นที่พลเรือนมากกว่า
กองทัพอากาศยูเครนกล่าวว่า ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของตนสามารถยิงโดรน 8 ลำที่รัสเซียส่งมาตกลงไปได้ แต่ยิงขีปนาวุธตกลงไปเพียง 18 ลูกจากทั้งหมดที่ถูกยิงเข้ามา 51 ลูก พร้อมระบุว่า เป้าหมายของขีปนาวุธนั้นรวมถึง “พื้นที่ตั้งโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” และที่ตั้งอุตสาหกรรมทางทหารและพลเรือนด้วย
การระดมโจมตียูเครนระลอกล่าสุดของกองทัพมอสโกเกิดขึ้น เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก ขณะที่ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เตรียมตัวจัดประชุมสภานาโต้-ยูเครนในวันพุธ เพื่อหารือการระดมโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซีย
ในการประชุมด้านกลาโหมที่กรุงสตอกโฮล์ม เป็นเจ้าภาพเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เข้าร่วมประชุมแบบออนไลน์และแสดงความมั่นใจว่า รัสเซียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และเตือนว่า สงครามในยูเครนจะแสดงให้เห็นว่า ยุโรปควรพัฒนาโครงการผลิตอาวุธร่วมกันกับยูเครนและสร้างคลังอาวุธที่มีจำนวนมากเพียงพอเพื่อการป้องกันตนเองด้วย ขณะที่ โทไบอัส บิลล์สตรอม รัฐมนตรีต่างประเทศสวีเดน แสดงจุดยืนของรัฐบาลในการสนับสนุนกรุงเคียฟด้วย
และในวันอาทิตย์เช่นกัน โยโกะ คามิคาวา รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางเยือนกรุงเคียฟ โดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้า ทำให้เธอกลายมาเป็นอาคันตุกะต่างชาติรายแรกที่มาเยือนเมืองหลวงของยูเครนในปี 2024
รมต.คามิคาวา ยังได้แสดงจุดยืนของรัฐบาลกรุงโตเกียวในยืนเคียงข้างกรุงเคียฟ และระบุในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลกรุงเคียฟ โดยมีล่ามแปล ว่า “ญี่ปุ่นมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสนับสนุนยูเครน เพื่อที่ว่า สันติภาพจะได้กลับคืนสู่ยูเครน”
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์