ยูเครนปฏิเสธคำเตือนครั้งสุดท้ายจากรัสเซียที่ให้ยอมจำนนเมืองมาริอูโพลเพื่อแลกกับการเปิดเส้นทางด้านมนุษยธรรมเพื่อให้ประชาชนอพยพออกไป ในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงโหมโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่กรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง
รองนายกรัฐมนตรียูเครน ไอรีนา เวเรสช์ชัค ปฏิเสธการยื่นคำขาดของรัสเซียในวันจันทร์ โดยยืนยันว่าจะไม่มีการยอมแพ้หรือวางอาวุธ และกล่าวว่ารัสเซียควรเปิดเส้นทางด้านมนุษยธรรมให้ชาวเมืองมาริอูโพลทันที
ก่อนหน้านี้ สื่อของทางการรัสเซีย RIA รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ประกาศกำหนดเส้นตายก่อนเช้าวันจันทร์ให้ยูเครนยอมแพ้ที่เมืองมาริอูโพล
ที่ผ่านมา เมืองมาริอูโพลสามารถสกัดการบุกของกองทัพรัสเซียได้ แต่แถลงการณ์จากสภาเมืองระบุว่า มีประชาชนหลายพันคนถูกทหารรัสเซียนำตัวออกจากบ้านเรือนของพวกเขาและนำตัวข้ามพรมแดนไปฝั่งรัสเซีย
วาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูโพล กล่าวว่า "สิ่งที่ทหารรัสเซียกำลังทำอยู่นั้นไม่ต่างจากสิ่งที่คนรุ่นก่อนเคยประสบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อทหารนาซีใช้กำลังบังคับจับตัวผู้คนไป"
Your browser doesn’t support HTML5
กรุงเคียฟตกเป็นเป้าโจมตีต่อเนื่อง
การโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่กรุงเคียฟยังคงดำเนินต่อเนื่องในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟต้องประกาศเคอร์ฟิวจนถึงเช้าวันพุธ
ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษรายงานการสู้รบอย่างหนักหน่วงทางเหนือของกรุงเคียฟในวันจันทร์ แต่ทหารรัสเซียยังไม่สามารถเคลื่อนกำลังเข้ามาประชิดกรุงเคียฟได้มากกว่าเดิม โดยยังคงอยู่ห่างจากเมืองหลวงของยูเครนมากกว่า 25 กม.
เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว ซีเอ็นเอ็น (CNN) ยืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจากับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แต่เตือนว่า หากการเจรจาเกิดล้มเหลวขึ้นมานั่นจะหมายถึง "สงครามโลกครั้งที่ 3”
ขณะเดียวกัน พันธมิตรของยูเครนยังคงจัดส่งอาวุธให้กับยูเครนอย่างต่อเนื่องผ่านการขนส่งภาคพื้นดินซึ่งยังคงรอดพ้นจากการถูกโจมตี โดยการประเมินอย่างเป็นทางการระบุว่า ยูเครนยังคงมีศักยภาพในการต่อสู้เหลืออยู่มากกว่า 90% แม้ว่าจะผ่านการทำสงครามกับรัสเซียมาเกือบสี่สัปดาห์แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับกำลังเสริมด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันอาทิตย์ รัฐมนตรีกลาโหมของสโลวาเกีย กล่าวว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธ แพทริออต จากองค์การนาโต้ได้เริ่มเดินทางมาถึงสโลวาเกียแล้วพร้อมกับทหารจากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ซึ่งจะประจำการที่ระบบต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อเสริมกำลังทางด้านตะวันออกของนาโต้