เมื่อวันศุกร์ ราห์ม เอ็มมานูเอล ทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น เผยว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเตรียมทำสัญญาให้อู่ต่อเรือญี่ปุ่นเป็นสถานที่บำรุงรักษาเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อให้เรือรบเหล่านี้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุขัดแย้งขึ้นในน่านน้ำฝั่งเอเชีย ตามรายงานของรอยเตอร์
ทูตเอ็มมานูเอลกล่าวว่า จีนจับตาดูเรือที่เคลื่อนไหวในน่านน้ำของภูมิภาคและคอยประเมินสถานะการป้องปรามตนเองของประเทศต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
กองทัพเรือจีนกลายเป็นความท้าทายใหม่จากการขยายจำนวนสรรพาวุธต่าง ๆ หลังกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่เผชิญความท้าทายในน่านน้ำของเอเชียมานานหลายสิบปี
ขณะนี้ จีนมีเรือและเรือดำน้ำกว่า 370 ลำ เพิ่มขึ้นจากจำนวนเรือเมื่อปีที่แล้วที่อยู่ที่ 340 ลำ ทำให้จีนมีกองทัพเรือขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตามรายงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่นระบุว่า การใช้งานอู่ต่อเรือของญี่ปุ่นจะช่วยบรรเทาภาระงานของอู่ต่อเรือสหรัฐฯ ที่ขณะนี้มีงานซ่อมดูแลเรือค้างอยู่จากกำหนดการเดิมถึง 4,000 วัน และทำให้สหรัฐฯ มุ่งเน้นไปที่การสร้างเรือเพื่อขยายกำลังสรรพาวุธของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้
เขายังเผยด้วยว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้จัดตั้งสภาเพื่อดูแลแผนการดูแลบำรุงเรือรบร่วมกันในครั้งนี้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ เป็นที่ตั้งของกำลังทหารนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รวมถึงมีกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีเพียงกองเรือเดียวในต่างประเทศของสหรัฐฯ ประจำอยู่ที่เมืองโยโกซูกะ โดยกองเรือนี้เป็นส่วนหนึ่งของทัพเรือที่ 7 ที่ประกอบด้วยเรือและเรือดำน้ำ 70 ลำ ที่ปฏิบัติการจากฐานทัพเรือในญี่ปุ่น
บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเรือรบและเรือดำน้ำสำหรับกองทัพญี่ปุ่น เป็นบริษัทที่ดูแลอู่ต่อเรือพาณิชย์ในเมืองโยโกฮามา โดยอู่ต่อเรือดังกล่าวเคยเป็นสถานที่ดูแลบำรุงเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์