'ตุรกี' ตกลงหยุดยิง 120 ชม.- ระงับปฏิบัติการทหารในซีเรีย

Vice President Mike Pence meets with Turkish President Recep Tayyip Erdogan at the Presidential Palace for talks on the Kurds and Syria, Thursday, Oct. 17, 2019, in Ankara, Turkey. (AP Photo/Jacquelyn Martin)

Your browser doesn’t support HTML5

Syria Turkey Kurds

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ กล่าวที่กรุงอันคาร่าในวันพฤหัสบดีว่า ทางการตุรกีตกลงจะหยุดยิงในพื้นที่ชาวเคิร์ดในแถบภาคเหนือของซีเรีย เป็นเวลา 120 ชั่วโมง

คำกล่าวของรองประธานาธิบดีเพนซ์มีขึ้นหลังการหารือกับประธานาธิบดีตุรกี เรจิบ เทยิบ เออโดวาน โดย ไมค์ เพนซ์ ระบุว่า การหยุดยิง 120 ชม. จะช่วยให้นักรบชาวเคิร์ดกลุ่ม Kurdish YPG มีเวลาหลบหนีออกไปจากเขตกันชนที่มีความยาว 32 กม. ตั้งอยู่ทางใต้ของชายแดนตุรกีติดกับซีเรีย จุดประสงค์เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในบริเวณดังกล่าว

แต่สื่อท้องถิ่นของชาวเคิร์ด รายงานคำพูดของนักการเมืองชาวเคิร์ดในซีเรีย อัลดาร์ เซลิล ที่ปฏิเสธการอนุญาตให้กองทัพตุรกีรุกล้ำดินแดนของซีเรียเข้ามาได้ถึง 32 กม. และว่ากองกำลังชาวเคิร์ดจะปกป้องตนเองระหว่างที่มีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงนี้

รองประธานาธิบดีเพนซ์เดินทางเยือนตุรกีครั้งนี้โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาว โรเบิร์ต โอไบรอัน เดินทางไปด้วยเพื่อพบเจรจากับประธานาธิบดีเออโดวานและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกี

รองประธานาธิบดีเพนซ์ กล่าวว่า ตุรกีและสหรัฐฯ มีข้อตกลงร่วมกันที่จะเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับอนาคตของดินแดนทางเหนือของซีเรียนี้ รวมทั้งยุทธิวิธีที่จะนำมาใช้ต่อสู้กับสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม ซึ่งมีบางคนที่หลบหนีไปจากการจับกุมหลังจากที่ตุรกีเริ่มโจมตีชาวเคิร์ดเมื่อ 10 วันก่อน เมื่อสหรัฐฯ ถอนทหารออกไป

ทางด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันพฤหัสบดีว่า "ข้อตกลงกับตุรกีแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยเมื่อ 3 วันก่อน สิ่งที่ต้องการก็คือ 'ความรักที่เข้มแข็ง' เพื่อทำให้ข้อตกลงนี้ลุล่วง ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน และภูมิใจอย่างยิ่ง"

https://twitter.com/realDonaldTrump/status/1184892687587012608

ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า เมื่อข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อตุรกีอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ขู่ว่ามาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับตุรกี จะทำให้เศรษฐกิจตุรกีต้องย่อยยับ

และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ ส่งจดหมายถึง ปธน.เออโดวาน เตือนว่าผู้นำตุรกี "อย่าทำตัวเก่ง และอย่าทำตัวโง่เขลา! ด้วยการโจมตีสังหารนักรบชาวเคิร์ดในซีเรีย" แต่มีรายงานว่า ปธน.เออโดวาน ไม่สนใจจดหมายฉบับนั้น และโยนทิ้งลงถังขยะทันที

เวลานี้ ปธน.ทรัมป์ กำลังเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการสั่งถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากทางเหนือของซีเรีย ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ตุรกีส่งทหารเข้าไปแทนเพื่อโจมตีชาวเคิร์ดซึ่งเคยร่วมรบกับทหารอเมริกันในสงครามต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานในทำเนียบขาวว่า การที่ตุรกีส่งทหารรุกเข้าไปในแถบทางเหนือของซีเรียซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวเคิร์ดนั้น ไม่ได้รับไฟเขียวจากตน แต่ก็บอกด้วยว่า การต่อสู้ในบริเวณดังกล่าวนั้น "ไม่ใช่ปัญหาของสหรัฐฯ"

ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า ชาวเคิร์ด "ไม่ใช่เทวดา" รวมทั้งยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทหารรัสเซียเข้าไปช่วยทำหน้าที่ทางภาคเหนือของซีเรียในขณะนี้ หลังจากที่สหรัฐฯ ถอนทหารออกมา

โดย ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า "ซีเรียอาจได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย ซึ่งนั่นยอมรับได้ เพราะบริเวณนั้นยังมีทรายอีกมากมายให้ทหารรัสเซียเล่น"

ความขัดแย้งในซีเรียซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ได้ก่อให้เกิดวิกฤติการณ์ด้านมนุษยธรรม และมีผู้ลี้ภัยความขัดแย้งนี้แล้วหลายล้านคน และตั้งแต่ตุรกีปฏิบัติการโจมตีทางทหารในพื้นที่ชาวเคิร์ดเมื่อ 10 วันก่อน ได้ทำให้มีผู้ย้ายถิ่นฐานแล้ว 160,000 คน ตามรายงานของสหประชาชาติ

ในการแถลงข่าวในวันพุธ ปธน.ทรัมป์ แสดงความกังวลว่าอาจมีประชาชนชาวเคิร์ดจำนวนมากที่หันไปเข้ากับกลุ่มรัฐอิสลามหลังการรุกรานของตุรกี และยังเป็นห่วงหัวรบนิวเคลียร์จำนวน 50 ลูกที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในฐานทัพของสหรัฐฯ ในตุรกีด้วย