สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อำนาจวีโต้งบประมาณด้านกลาโหมฉบับใหม่ มูลค่า 740,000 ล้านดอลลาร์ แม้งบประมาณฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบมากกว่า 2 ใน 3 จากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้สามารถป้องกันการใช้อำนาจวีโต้ของประธานาธิบดีได้
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ตนใช้อำนาจยับยั้งร่างกฎหมายงบประมาณด้านกลาโหมแห่งชาติ หรือ National Defense Authorization Act (NDAA) ปี ค.ศ. 2021 มูลค่า 740,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากร่างกฎหมายนี้มิได้รวมมาตรการสำคัญเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งไม่แสดงถึงความเคารพต่อประวัติศาสตร์ทางทหารและบรรดาทหารผ่านศึกอเมริกัน ซึ่งแตกต่างจากนโยบายอเมริกามาก่อนในรัฐบาลของตน
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุในข้อความที่ส่งถึงสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ด้วยว่า "ร่างกฎหมายนี้คือของขวัญสำหรับจีนและรัสเซีย" นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังต้องการให้สภาคองเกรสถอดบทบัญญัติในร่าง กม.กลาโหม ที่เปิดทางให้มีการเปลี่ยนชื่อฐานทัพ ซึ่งเป็นชื่อของอดีตผู้นำสมาพันธรัฐฝ่ายใต้ในยุคสงครามกลางเมือง
หากการใช้อำนาจวีโต้นี้มีผล หมายความว่าจะเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่งบประมาณด้านการทหารของสหรัฐฯ ไม่ผ่านการรับรองเป็นกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ผู้นำในสภาคองเกรสอาจพยายามเดินหน้าผ่านร่างกม.กลาโหมฉบับนี้ต่อไปด้วยการลงมติยกเลิกการวีโต้ของประธานาธิบดี เนื่องจากผลการลงมติของทั้งสองสภาของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นว่ามีสมาชิกราว 80 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดที่ระบุว่าต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 2 ใน 3 ลงมติเห็นชอบเพื่อลบล้างคำสั่งวีโต้โดยปธน.
คาดว่า ปธน.ทรัมป์ จะกดดันให้สมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนหนึ่งเข้าข้างตนเพื่อยกเลิกงบประมาณด้านกลาโหมดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มประชุมย่อยของสมาชิกสภาล่างที่เรียกตัวเองว่า House Freedom Caucus และมีสมาชิกหัวอนุรักษ์นิยมกว่า 30 ราย ออกมาประกาศสนับสนุนจุดยืนของผู้นำประเทศคนปัจจุบัน ด้วยการแสดงความไม่เห็นชอบร่างกม.นี้แล้ว แม้ว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนได้ออกมายืนยันว่าจะออกเสียงเพื่อให้ยกเลิกการวีโต้ของผู้นำสหรัฐฯ ก็ตาม