Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวานนี้ หิมะที่ตกหนักทำให้หน่วยงานรัฐในกรุงวอชิงตันส่วนใหญ่ประกาศให้เป็นวันหยุด และกิจกรรมของทำเนียบขาวทั้งหมดถูกยกเลิก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ใช้เวลาเขียนทวีตโจมตีอัยการพิเศษ นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่กำลังตรวจสอบความเกี่ยวโยงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสองปีก่อน
การโจมตีบุคคลที่โดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ผ่านทวิตเตอร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หลายคนที่เคยเห็นการสะกดคำผิดของโดนัลด์ ทรัมป์ รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษในทวีตของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ เพราะมีการสะกดผิดถึง 4 แห่ง
3 แห่ง มาจาการเรียกตำแหน่งนาย มุลเลอร์ ซึ่งเป็นอัยการพิเศษ หรือ Special Counsel แต่สะกดผิดเป็น Special Council ซึ่ง Council แปลว่า “คณะทำงาน” หรือ “คณะกรรมาธิการ”
การสะกดผิดแห่งที่ 4 มาจากความพยายามสะกดกำว่า whether ที่แปลว่า “หรือไม่” แต่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ พิมพ์เป็น wether ซึ่งมีความหมายว่าแกะตัวผู้ที่ถูกทำหมัน
แม้มีคำสะกดผิดอยู่มาก แต่ความหมายหลักพอเข้าใจได้ชัดเจนว่า ผู้นำสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งให้ โรเบิร์ต มุลเลอร์ มาทำงานเป็นอัยการพิเศษนี้ตั้งแต่แรก
ผู้ที่เคร่งครัดเรื่องการสะกดคำ แสดงความคิดเห็นต่อทวีตของประธานาธิบดีทรัมป์กันอย่างคึกคัก
อาจารย์ Lisa McLendon จากคณะวารสารศาสตร์มหาวิทยาลัย Kansas บอกว่า หากว่าคุณเป็นผู้สะท้อนความเป็นอเมริกา คุณก็ควรใช้ภาษาให้ตรงความหมายและกระชับที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นคนจะคิดว่าคุณชุ่ย และคนจะตัดสินคุณไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินที่ยุติธรรมหรือไม่ก็ตาม
ผู้สอนวิชาวารสารศาสตร์อีกรายหนึ่ง Mignon Fogarty จาก University of Nevada วิทยาเขต Reno บอกว่า พูดรวมๆ แล้ว ปัญหาการสะกดคำและการใช้เครื่องหมายวรรคตอนของทรัมป์ เกิดขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในทัศนะของอาจารย์ผู้นี้ คือ นโยบายและการดำเนินการทางการเมืองของเขาที่เป็นอันตราย
เธอบอกว่า ทักษะที่อ่อนในเรื่องการเขียนเป็นปัญหากวนใจเธอน้อยที่สุด หากนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้
คณะทำงานของทำเนียบขาวกล่าวตอบโต้คำตำหนิเรื่องการสะกดคำผิดของผู้นำสหรัฐฯ โดยรองโฆษกทำเนียบขาว Hogan Gidley กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่หมกมุ่นกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ “สะกด” ชัดเจนเรื่องการลดภาษี และการเพิ่มเงินในกระเป๋าสตางค์ของประชาชน
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Steve Herman)