Your browser doesn’t support HTML5
กลุ่มก่อการร้ายขนาดใหญ่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) และกลุ่มอัลไคยด้า แสดงความยินดีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งและกำลังจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ โดยทั้งสองกลุ่มได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการแสดงความยินดี และรับสมัครสมาชิกไปพร้อมๆ กัน
ไม่นานหลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาย Abu Muhammad al-Maqdisi ผู้นำศาสนาชาวจอร์แดนผู้ใกล้ชิดกับกลุ่มอัลไคยด้า ได้ทวีตข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ ใจความว่า “การดำรงตำแหน่งของทรัมป์ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความแยกแยกเป็นเสี่ยงๆ ในอเมริกา”
รวมทั้งข้อความที่ว่า “ทรัมป์เปิดเผยให้เห็นถึงก้นบึ้งในจิตใจของคนอเมริกัน คือการเหยียดชาวมุสลิม ชาวอาหรับ และคนสีผิวอื่น สิ่งที่ทรัมป์แสดงให้เห็นคือสิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนๆ ปกปิดมานาน”
ขณะที่มีข้อความหลายชิ้นจากกลุ่มผู้ที่อ้างว่าเป็นนักรบอิสลามแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งปรากฏในสื่อสังคมต่างๆ ที่มีความเห็นไปในแนวเดียวกัน คืออเมริกากำลังอ่อนแอลงภายใต้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่
อดีตนักวิเคราะห์ของ CIA นาย Aki Peritz ซึ่งปัจจุบันประจำอยู่ที่ศูนย์ศึกษาด้านความมั่นคงของมหาวิทยาลัย George Washington กล่าวว่า “ดูเหมือนบรรดากลุ่มก่อการร้ายต่างแสดงความยินดี และสนับสนุนชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์” ถึงกระนั้น มิได้หมายความว่าการปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นจะลดลง ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งก็ตาม
ด้านคุณ Michael Smith แห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคง Kronos มองอีกมุมหนึ่งว่า “การที่ทรัมป์ชนะ มิได้หมายความว่ากลุ่มก่อร้ายจะใช้เรื่องนี้ในการโฆษณาชวนเชื่อได้มากกว่า ฮิลลารี่ คลินตั้น เพราะหากมีผู้หญิงเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ก็สามารถถูกนำไปใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อรับสมัครสมาชิกได้เช่นกัน”
ขณะที่คุณ Michael Pregent อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่กับสถาบัน Hudson กล่าวว่า “หากใครคิดว่ากลุ่มอัลไคยด้าและกลุ่ม IS ยินดีที่ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี เพราะเชื่อว่าทรัมป์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าคลินตั้น บอกได้เลยว่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง” และว่า “หากตนเป็นผู้นำกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้น ตนจะกังวลกับรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่าของคลินตั้น”
นักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้แจงว่า ทรัมป์ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวกับอิหร่าน และอาจถึงขั้นฉีกข้อตกลงว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่รัฐบาลประเทศตะวันตกทำไว้กับรัฐบาลกรุงเทหะราน ซึ่งท่าทีดังกล่าวนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งกลุ่มรัฐอิสลามและกลุ่มอัลไคยด้า ซึ่งล้วนเป็นชาวมุสลิมนิการสุหนี่
เพราะการที่รัฐบาลสหรัฐฯ หันหลังให้กับอิหร่านซึ่งปกครองโดยมุสิมนิกายชีอะห์ อาจทำให้กลุ่มก่อการร้ายทั้งสองกลุ่มนั้นประสบความยากลำบากในการนำประเด็นเรื่องความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน มาเป็น “จุดขาย” ในการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อรับสมัครสมาชิกใหม่
นักวิเคราะห์ Michael Pregent เชื่อด้วยว่า รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มทีจะผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในช่วงที่ผ่านมาด้วย
อย่างไรก็ตาม อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ P.J. Crowley เชื่อว่า ดูเหมือนกลุ่มอัลไคยด้า และกลุ่มรัฐอิสลาม ต่างเตรียมจะใช้ประโยชน์จากนโยบายต่างประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเชื่อว่าจะมุ่งเน้นที่ผลประโยชน์ของอเมริกา มากกว่าคุณค่าที่แท้จริงของความเป็นอเมริกัน
(ผู้สื่อข่าว Jeff Seldin รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)