กลุ่มผู้ว่าการรัฐจากทั้งสองพรรคเร่งเร้า 'ทรัมป์' หนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

Trump Renewable

เท่าที่ผ่านมา เจ้าของที่ดินในเขตชนบทของสหรัฐฯ ทำรายได้ถึงปีละ 222 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากค่าเช่าที่ดินแก่บริษัทผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ในการติดตั้งกังหันลมและอุตสาหกรรมพลังงานโซล่าร์ในสหรัฐฯ

ซึ่งได้สร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 30,000 ตำแหน่งเมื่อปีที่แล้วและได้ว่าจ้างคนทำงานถึงสองแสนคน

แต่อนาคตของอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ เกิดความไม่แน่นอนทันที หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศที่จะหนุนอุตสาหกรรมทำเหมืองถ่านหิน น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ และต้องการถอนตัวจากข้อตกลงสภาพภูมิอากาศโลกแห่งปารีส

รัฐโอไฮโอ้อาจจะไม่น่าจะเป็นรัฐที่หนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมอย่างแข็งขัน แต่โอไฮโอ้ติดอันดับ 26 ในบรรดารัฐทั่วประเทศที่มีความสามารถสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม รัฐนี้มีบริษัทผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมากกว่ารัฐอื่นๆ และความต้องการไฟฟ้าที่บริษัทเหล่านี้ผลิตได้ก็เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ทางสมาคม American Wind Energy รายงานว่า ในสหรัฐฯ บริษัทพลังงานลมช่วยสร้างพลังงานไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคมากกว่าโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา และยังสร้างงานมากขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2015 ไปอยู่ที่ 88,000 ตำแหน่ง

Doug Herr หัวหน้าฝ่ายขายของบริษัทบริษัท AeroTorque กล่าวว่า หากดูที่การเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลม การเติบโตนี้จะส่งเสริมการสร้างตำแหน่งงานด้านการผลิตกังหันลมในประเทศ

แผน America First Energy Plan ของปธน. ทรัมป์ ส่งเสริมพลังงานถ่านหิน น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ และไม่มีการกล่าวถึงพลังงานหมุนเวียนในแผนเลย

กลุ่มผู้ว่าการรัฐที่มาจากทั้งสองพรรคการเมืองกลุ่มนี้ ได้เร่งเร้าให้ปธน. ทรัมป์ สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ จะสูญเสียตำแหน่งความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดนี้แก่ชาติอื่นๆ ที่ผู้นำประเทศได้แสดงความมุ่งมั่นว่าจะให้ความสำคัญแก่อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โดยเฉพาะประเทศจีน

Doug Herr กล่าวว่าหากสหรัฐฯ ไม่เร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ให้สหรัฐฯ นำหน้าในเรื่องนี้ ตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมนี้จะย้ายไปอยู่ในประเทศจีนแทนซึ่งได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

กล่าวคือ บริษัทผลิตกังหันลมห้าบริษัทใน 10 อันดับต้นๆ เป็นบริษัทจีน เช่นเดียวกับผู้ผลิตแผงโซล่าร์ห้าในหกบริษัทอันดับต้นๆ ก็เป็นบริษัทจีนเช่นกัน

Ranping Song ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบัน World Resources กล่าวว่า ทางการจีนหนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอย่างแข็งขัน เขากล่าวว่าจีนมองเห็นโอกาสที่ดีในระดับทั่วโลกในการส่งออกเทคโนโลยีเขียวนี้ เพราะมองว่าทุกชาติต้องการใช้เทคโนโลยี

นอกจากนี้ Song ยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลจีนยังกำลังลงทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยกำจัดปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมในประเทศจีนเอง

ยังไม่แน่นอนว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยภาวะโลกร้อนหรือไม่ แต่ค่าลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและโซล่าร์ได้ลดลงมา และสามารถแข่งขันได้อย่างดีกับพลังงานถ่านหิน

Doug Herr กล่าวว่าไม่ว่าคุณจะเชื่อเรื่องภาวะโลกร้อนหรือไม่ พลังงานหมุนเวียนเป็นทางเลือกที่ดีต่อเศรษฐกิจและต่อคนงานในสหรัฐฯ อย่างแน่นอน

(รายงานโดย Steve Baragona / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )