Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นแขกของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ของฝรั่งเศสไ ด้ชมการสวนสนามประจำปีในโอกาสวันชาติฝรั่งเศสที่กรุงปารีส
โดยผู้นำสหรัฐฯ มีความประทับใจ และกล่าวว่าตนอยากให้มีการสวนสนามในสหรัฐฯ เช่นกัน
และเมื่อผู้นำสหรัฐฯ พบกับประธานาธิบดีมาคร็องอีกครั้งระหว่างการประชุมของสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายน ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ได้พูดเรื่องนี้อีกครั้ง โดยกล่าวชมการสวนสนามในวันชาติของฝรั่งเศสว่า เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่ตนเคยชมมา โดยใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง และยังกล่าวด้วยว่าสหรัฐฯ จะพยายามจัดให้ได้ดีกว่าด้วย
ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งถึงกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 18 มกราคม ว่าตนต้องการให้จัดการสวนสนามที่กรุงวอชิงตันเหมือนในฝรั่งเศส และขณะนี้ผู้นำกองทัพของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนทางเลือกต่างๆ อยู่
โดยโอกาสที่จะจัดการสวนสนามเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันนั้น มีอยู่ 3 วันด้วยกัน และทั้งสามวันนี้ล้วนเป็นวันหยุดราชการทั้งสิ้น
คือวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวัน Memorial Day หรือวันที่ระลึกผู้วายชนม์ในสงครามของสหรัฐ วันที่ 4 กรกฎาคม หรือวันชาติอเมริกัน ซึ่งจะมีการจุดดอกไม้ไฟในกรุงวอชิงตัน และวันที่ 11 พฤศจิกายน หรือวันทหารผ่านศึก ซึ่งปีนี้ก็เป็นโอกาสครบรอบ 100 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย
มีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อยากจะให้จัดการสวนสนามดังกล่าวในวันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อแยกการแสดงพลังทางทหารนี้ออกจากเรื่องการเมือง เพราะปีนี้เป็นปีของการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ และวันเลือกตั้งคือวันที่ 6 พฤศจิกายน
ในสหรัฐฯ นั้นเคยมีการจัดสวนสนามมาแล้วหลายครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นกิจกรรมประจำก็ตาม กล่าวคือ ในสมัยอดีตประธานาธิบดีไอเซนฮาวน์ เคยมีการสวนสนาม 2 ครั้งในพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง ส่วนประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็เคยจัดการสวนสนามในโอกาสปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของตนเช่นกัน
และครั้งสุดท้ายที่มีการสวนสนามแสดงพลานุภาพของกองทัพสหรัฐฯ คือเมื่อ 27 ปีที่แล้ว หรือในปี พ.ศ. 2534 ในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช เพื่อฉลองชัยชนะในการรบของสหรัฐฯ ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย
อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญก็คือ กรุงวอชิงตันซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการจะให้มีการสวนสนามนั้น มีความพร้อมหรือตอบรับความต้องการนี้หรือไม่?
และมีรายงานว่า ถึงแม้กระทรวงกลาโหมและรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พร้อมที่จะช่วยเหลือและจ่ายคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดจากการสวนสนามนี้ ให้กับรัฐบาลท้องถิ่นกรุงของกรุงวอชิงตันก็ตาม
แต่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า สภาท้องถิ่นกรุงวอชิงตันได้แสดงท่าทีว่า “Thanks, but No Tanks” ซึ่งหมายถึงว่า "ขอบคุณ แต่ทางสภาของเมืองไม่ต้องการการสวนสนาม หรือไม่ต้องการให้นำรถถังมาแสดงพลังในกรุงวอชิงตัน" นั่นเอง