Your browser doesn’t support HTML5
เกิดปฏิกิริยาตอบรับมากมายในสหรัฐฯ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก รวมไปถึงคำสั่งในนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดกับผู้หลบหนีเข้าเมืองและปฏิเสธผู้อพยพจากต่างชาติ
โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ ABC ยืนยันถึงความมั่นใจในการลงนามคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ Executive Order เพื่อสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก ที่จะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ รวมทั้งความมั่นคงตามแนวชายแดนของสหรัฐฯ
Jim Chilton เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในรัฐแอริโซนา ริมชายแดนเม็กซิโก เห็นด้วยกับการสร้างแนวกำแพง เพราะนอกจากจะไม่ต้องเผชิญกับการลักลอบเข้ามาทำลายแนวรั้วกั้นปศุสัตว์ และจุดไฟเผาอยู่เป็นประจำแล้ว เขายังบอกด้วยว่าต่อไปคงจะไม่มีคนเข้าเมืองผิดกฎเมืองต้องมาเสียชีวิตกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุทางตอนใต้ของอเมริกาอีก
ขณะที่บาทหลวง Randy Mayer ผู้สนับสนุนสิทธิของคนเข้าเมือง บอกว่า การสร้างกำแพงเปรียบเสมือนการไร้ความเคารพประเทศเพื่อนบ้าน และควรหันมาสวมกอดผู้คนเหล่านั้นด้วยการสร้างสะพานเชื่อมสัมพันธ์กันมากกว่า
นโยบายที่แข็งกร้าวต่อคนเข้าเมืองของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ผู้เข้าเมืองที่ไม่มีเอกสารในหลายรัฐ พยายามรวมกลุ่มหาคำปรึกษาจากองค์กรช่วยเหลือเพื่อเรียนรู้การตรียมตัวในยามต้องเผชิญกับเจ้าหน้าที่
Maria Herrera จากรัฐแมรีแลนด์ บอกว่า พวกเธอต่างหวาดกลัวในอำนาจของประธานาธิบดีทรัมป์
Dan Stein ประธานสหพันธ์เพื่อการปฏิรูปการอพยพเข้าเมืองอเมริกัน บอกว่า ไม่ง่ายนักสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะบังคับใช้กฎหมายด้วยแนวทางนี้ เพราะการบังคับใช้กฎหมายที่มักจะไปกำหนดถึงการมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิอาศัยของคนนั้น ก็เพื่อจะคัดค้านการปฏิรูปกฎหมายการอพยพเข้าเมือง
ที่ผ่านมามีหลายเมืองในสหรัฐฯ ที่มีความพร้อมและมีแผนจะเปิดรับผู้อพยพเข้าเมืองมาอาศัย
Christopher Lourus นายกเทศมนตรีเมืองลัทแลนด์ ในรัฐเวอร์มอนท์ ที่มีแผนเตรียมเปิดรับผู้อพยพกว่า 100 คนจากซีเรียก่อนหน้านี้ บอกว่า แผนการช่วยเหลือนอกจากจะเป็นโอกาสทำในสิ่งที่ถูกต้องและแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์แล้ว ยังคาดหวังว่ากลุ่มผู้อพยพจะสามารถตั้งรกรากและเข้าเป็นเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และช่วยงานในส่วนที่ต้องการได้
แต่แผนการรับผู้อพยพเหล่านั้นอาจจะต้องล่าช้าออกไปหลังการประกาศคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์
Your browser doesn’t support HTML5