ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปยังรัฐจอร์เจียในวันเสาร์ เพื่อช่วย ส.ว.พรรครีพับลิกันสองคนหาเสียงที่รัฐนี้ ในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกรอบที่สองในเดือนมกราคมซึ่งจะช่วยชี้ขาดว่าพรรคไหนจะได้ครอบครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาสหรัฐฯ
ปธน.ทรัมป์ กล่าวกับผู้สนับสนุนจำนวนมากที่เมืองวาลดอสตา รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นการกล่าวปราศรัยครั้งแรกหลังการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนที่แล้วว่า "พวกเราทราบกันดีว่าใครคือผู้ชนะเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย" พร้อมกล่าวหาว่าพรรคเดโมแครตโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดี และกำลังจะโกงการเลือกตั้ง ส.ว.ที่รัฐนี้ด้วย
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เป็นผู้ชนะที่รัฐนี้ด้วยคะแนนเสียงห่างกันไม่ถึง 12,000 คะแนน จากจำนวนผู้ลงคะแนนทั้งหมด 5 ล้านคน
สื่อวอชิงตันโพสต์และ Associated Press รายงานว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทางมายังรัฐจอร์เจีย ปธน.ทรัมป์ ขอให้ผู้ว่าการรัฐ ไบรอัน เคมพ์ จากพรรครีพับลิกัน จัดการประชุมพิเศษร่วมมือกับสมาชิกรัฐสภารัฐจอร์เจียคนอื่น ๆ เพื่อขอให้ยกเลิกผลการเลือกตั้งของรัฐนี้และแต่งตั้งคณะผู้เลือกตั้งชุดใหม่ที่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่ทางผู้ว่าการเคมพ์ปฏิเสธคำขอดังกล่าว
ขณะเดียวกัน คณะหาเสียงของทรัมป์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลในรัฐจอร์เจียเมื่อวันศุกร์ เพื่อขอให้ประกาศว่าผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เป็นโมฆะ เช่นเดียวกับที่ยื่นคำร้องต่อศาลในรัฐอื่น ๆ หลายรัฐซึ่งส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธมาแล้ว
เวลานี้ พรรครีพับลิกันต้องการที่นั่งในวุฒิสภาสหรัฐฯ เพิ่มเพื่อรักษาการครอบครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาสูง ซึ่งหาก ส.ว.ของรีพับลิกันทั้งสองคน คือ ส.ว.เดวิด เพอร์ดิว และ ส.ว.เคลลี โลฟฟ์เลอร์ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่ง พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในเดือนมกราคม จะทำให้พรรคเดโมแครตได้ที่นั่งเพิ่มเป็น 50 ที่นั่งเท่ากัน ซึ่งหมายความว่าว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส จะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินชี้ขาดในการผ่านร่างกฎหมายต่าง ๆ กรณีที่ทั้งสองพรรคมีเสียงเท่ากันในวุฒิสภา