ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ ยกย่องกองกำลังสำรองของรัฐ หรือ เนชันแนลการ์ด ว่าทำงานได้อย่าง "ยอดเยี่ยม" ในการตอบสนองต่อการประท้วงที่นครมินนีแอโปลิส ที่กลายไปเป็นความรุนแรงในช่วงหลายคืนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการใช้กำลังของตำรวจผิวขาวเพื่อจับกุมชาวผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของชายผู้นี้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวหากลุ่มแนวคิดซ้ายสุดโต่ง แอนติฟา (Antifa) ว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ พร้อมกระตุ้นให้รัฐที่มีพรรคเดโมแครตเป็นผู้บริหารรัฐบาลส่วนท้องถิ่นให้ดูตัวอย่างการปราบปรามผู้ประท้วงในนครมินนีแอโปลิสเมื่อคืนที่ผ่านมา
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอเมริกันจะประกาศให้กลุ่ม "แอนติฟา" เป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำกล่าวที่สร้างความกังวลว่ารัฐบาลกำลังพยายามควบคุมการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ซึ่งขัดกับบทบัญญัติที่ 1 ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
กลุ่มแอนติฟา (Antifa) ซึ่งหมายถึงกลุ่มต่อต้านระบอบปกครองฟาสซิสต์ เป็นการรวมตัวของผู้ประท้วงรัฐบาล นักรณรงค์ฝ่ายซ้าย และผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตย ซึ่งล้วนต่อต้านแนวคิดขวาจัดด้วยความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทรัมป์มักกล่าวโจมตีกลุ่มนี้ว่าอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่าง ๆ
ในวันอาทิตย์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ มีแถลงการณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ กำลังมุ่งเป้าไปที่กลุ่มแนวคิดสุดโต่งที่เข้าแทรกแซงการประท้วงและปลุกปั่นจากความสงบไปสู่ความรุนแรง โดยเชื่อว่ากลุ่มแอนติฟาและกลุ่มอื่น ๆ ที่มีแนวคิดแบบเดียวกันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบและเข้าข่าย "ผู้ก่อการร้ายในประเทศ"
ด้าน ส.ว.มาร์โค รูบิโอ จากรัฐฟลอริดา สังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการณ์ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ทวีตว่า ข่าวใหญ่ที่ไม่มีการรายงาน คือมีกลุ่มอันธพาลผู้ก่อการร้าย อย่าง แอนติฟา และบูกาลู (Boogaloo) ที่สนับสนุนให้เกิดความรุนแรงในรัฐต่าง ๆ ในขณะนี้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ฉกฉวยโอกาสจากความเกลียดชังระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจและรัฐบาลเพื่อสร้างความวุ่นวาย โดยมิได้ยึดมั่นในแนวคิดเสรีนิยมหรืออนุรักษ์นิยมแต่อย่างใด