การประท้วง ความวุ่นวาย เปลวเพลิง และการปล้นร้านค้า ลุกลามไปในหลายเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการประท้วงที่เริ่มต้นในนครมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตา เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่ถูกตำรวจใช้เข่ากดทับที่คอจนเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม
การประท้วงลุกลามไปเป็นความรุนแรง รถตำรวจและอาคารรัฐบาลหลายแห่งในหลายเมืองถูกไฟเผา หน้าต่างร้านค้าถูกทุบเพื่อบุกเข้าไปขโมยสินค้าด้านใน อนุสาวรีย์หลายแห่งถูกพ่นสีและถูกทำลาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงเพื่อสลายการชุมนุมและยับยั้งความรุนแรง
ในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กว่า 30 เมือง รวมถึงกรุงวอชิงตันได้ประกาศมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมสถานการณ์ และผู้ประท้วงราว 4,000 คนถูกตำรวจจับกุมตัว
จนถึงขณะนี้ การประท้วงเหตุการณ์ตำรวจสังหาร จอร์จ ฟลอยด์ ได้เข้าสู่วันที่หก และลุกลามไปมากกว่า 30 เมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในการประท้วงทั่วประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงกว่า 50 ปี หลังการประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม
ผู้ชุมนุมแสดงความโกรธแค้นที่ในระหว่างการจับกุมนายฟลอยด์ด้วยข้อหาใช้ธนบัตรปลอม ตำรวจผิวขาว เดเรค ชอวิน (Derek Chauvin) ได้ใช้เข่ากดทับที่คอนายฟลอยด์เป็นเวลาหลายนาที ทั้งที่นายฟลอยด์ถูกล็อคมือไขว้หลังไว้ด้วยกุญแจมือ และร้องบอกตำรวจว่า "หายใจไม่ออก" ก็ตาม
เมื่อวันเสาร์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ทิม วอล์ทซ์ เรียกใช้กองกำลังสำรองของรัฐ (National Guard) เพื่อรับมือการประท้วง โดยกล่าวว่า “เรากำลังถูกโจมตี” และประกาศว่าจะทำอย่าง “เต็มที่” เพื่อจะนำความสงบเรียบร้อยกลับมาเหมือนเดิม
กรุงวอชิงตัน และรัฐอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 8 รัฐ ได้แก่ จอร์เจีย เคนตักกี โอไฮโอ วิสคอนซิน โคโรลาโด ยูทาห์ วอชิงตัน และเท็กซัส ได้ระดมกองกำลังสำรองของรัฐ เพื่อใช้ในการช่วยปราบปราบการประท้วง ที่ได้ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่
ในขณะที่เมืองใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ รวมทั้ง มินนีแอโปลิส ซีแอตเติล ลอสแอนเจลีส ฟิลาเดลเฟีย และแอตแลนต้า ได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่กลางคืนวันเสาร์ถึงรุ่งเช้าวันอาทิตย์ หลังจากที่การชุมนุมลุกลามบานปลายในหลายพื้นที่
ที่กรุงวอชิงตัน ผู้ชุมนุมประท้วงบางส่วนมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในตอนบ่ายของวันเสาร์ ต่อมาในเวลาหัวค่ำ ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยังได้เคลื่อนไปล้อมรอบพื้นที่บริเวณทำเนียบขาว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอารถยนต์ รั้วกัน และกองกำลังมากั้นแนวเอาไว้
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตในวันเสาร์ โดยอ้างว่าผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็น "ผู้ชุมนุมประท้วง" ที่ทำเนียบขาวนั้น ถูกบริหารจัดการโดยมืออาชีพ และมาชุมนุมเพื่อสร้างปัญหา โดยไม่ได้มีส่วนกับผู้คนที่แสดงความรำลึกถึงนายฟลอยด์
ก่อนหน้านั้นในวันศุกร์ ทรัมป์ เติมเชื้อไฟในเหตุตึงเครียดนี้ด้วยทวีตที่เรียกผู้ประท้วงในมินนีโซตาว่า “พวกโจร” และว่าที่ใดมีการปล้น ที่นั่นต้องมีการลั่นไก ปรากฏว่าทางทวิตเตอร์สั่งแจ้งเตือนทวีตดังกล่าวว่าเข้าข่ายสนับสนุนการใช้ความรุนแรง และเป็นครั้งแรกที่ทวิตเตอร์บังคับใช้มาตรการเข้มงวดกับบัญชีทวิตเตอร์ของผู้นำสหรัฐฯ
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการรัฐมินนิโซตาได้ควบคุมตัวอดีตตำรวจมินนิโซตา เดเรค ชอวิน และตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน และจะเดินหน้าสอบสวนตำรวจอีก 3 นายในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย