Your browser doesn’t support HTML5
ผลการศึกษาในยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ชี้ว่า ต้นไม้มีศักยภาพในการช่วยดูดซับ 2 ใน 3 ของเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกไปเพิ่มเติมในชั้นบรรยากาศ เนื่องมาจากกิจกรรมของมนุษย์ตั้งเเต่การเริ่มต้นของยุคอุตสาหกรรม
ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดนำโดยทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย ETH Zurich ด้านเทคโนโลยี ค้นพบว่า หากมีต้นไม้เพิ่มขึ้นอีก 500,000 ล้านต้นซึ่งจะปกคลุมพื้นที่ที่มีขนาดเท่ากับสหรัฐอเมริกา จะช่วยดูดซับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 200 กิกกะตันจากชั้นบรรยากาศโลกเมื่อต้นไม้โตเต็มที่
ทีมผู้ร่างผลการศึกษานี้ชี้ว่า เมื่อรวมกับการลดปริมาณเเก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศลง การเพิ่มจำนวนต้นไม้ช่วยลดปริมาณเเก๊สเรือนกระจกที่สั่งสมในชั้นบรรยากาศลงได้ภายในปีค.ศ. 2050 หรืออีก 31 ปีข้างหน้าเ เละจะเป็นทางเเก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ได้ผลมากที่สุดเท่าที่มีมา
ทีมนักวิทยาศาสตร์นี้บอกว่า การควบคุมภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียสให้ได้ภายในปีค.ศ. 2050 ซึ่งเป็นเป้าหมายของสหประชาชาติจำเป็นต้องมีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านไร่ โดยเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 จากพื้นที่ป่าที่มีอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเเข่งกับเวลาเนื่องจากโลกที่อุ่นขึ้นทำให้พื้นที่ดินสำหรับปลูกป่าลดลง
Thierry Rivard เเห่งหน่วยงานไม่หวังผลกำไร TreePeople กล่าวว่า มีต้นไม้เหลืออยู่ไม่มากนักในส่วนหนึ่งของพื้นที่ป่าเเห่งชาติเองเจลลีส (Angeles National Forest) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครลอสเองเจลลีส ในพื้นที่นี้มีทีมอาสาสมัครกำลังตัดทำลายพืชต่างถิ่นที่กำลังลุกลาม อาทิ ต้นมัสตาร์ดเเละต้นทิสเซิลที่มีหนาม ตลอดจนปลูกพืชท้องถิ่นทดแทนราว 40 ชนิด
Rivard กล่าวว่า พืชที่เพิ่งปลูกเป็นพืชประเภทหญ้าชนิดต่างๆ บางชนิดเป็นไม้พุ่ม บางชนิดเป็นต้นไม้ อาทิ ต้นโอ๊คเเละต้นอัลเดอร์แบรี่ พืชล้มลุกขนาดเล็กประเภทไม้พุ่ม ต้นไม้เหล่านี้เคยเติบโตดีมากในพื้นที่นี้ในสภาพนิเวศวิทยาที่สมดุลจนกระทั่งปัจจุบันที่ถูกพืชต่างถิ่นที่เข้าไปคุกคาม
ในช่วงหลายสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาอาสาสมัครช่วยกันดึงเเละกำจัดพืชต่างถิ่นที่ลุกลามเป็นบริเวณกว้างเเละหิ้วน้ำทีละถังขึ้นไปรดเเก่ต้นไม้ที่ปลูกตามแนวเขา
Cindy Montanez ซีอีโอแห่ง TreePeople กล่าวว่า ต้นไม้มีประโยชน์หลายอย่าง ต้นไม้ให้ร่มเงาเเก่มนุษย์ สิ่งเเวดล้อม ขณะที่โลกกำลังเจอกับภาวะอากาศร้อนรุนเเรงบ่อยมากขึ้นและต้นไม้ช่วยอุ้มน้ำเอาไว้ได้ด้วย
ความพยายามสำคัญในการลดการตัดไม้ทำลายป่าเเละการขยายพื้นที่ป่าที่มีอยู่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ รวมทั้งโครงการ the Thirty Hills ในป่าสุมาตรา เเละโครงการ Trillion Trees ที่เน้นดำเนินการในบางส่วนของอเมริกาใต้เเละแอฟริกา
โครงการทั้งสองนี้ดำเนินการโดยกองทุนสัตว์ป่าโลกเเละองค์การในความร่วมมือหลายแห่ง เป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม comprehensive ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อระบบนิเวศวิทยา ยกตัวอย่างวิธีการปลูกโกโก้ที่เป็นมิตรต่อป่าไม้ในแอฟริกา เเละการผลิตน้ำผึ้งในอินโดนีเซีย
รายงานผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science ชี้ว่า มีหกประเทศที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูป่าได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ป่าที่ต้องการทั้งหมด ซึ่งได้เเก่ รัสเซีย สหรัฐฯ เเคนาดา บราซิลเเละจีน
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)