แอพพลิเคชันดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคณะบริหารธุรกิจแห่งอินเดีย (ISB) เพื่อใช้ในการติดตามดูสิทธิของชุมชนในอินเดีย ตามพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในป่าปี 2006 ของอินเดียซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวชนบท โดยการให้คนเหล่านั้นตระหนักรู้ถึงสิทธิของตนในการอยู่อาศัยและหาเลี้ยงชีพในป่า
แอพพลิเคชั่นนี้ สามารถใช้งานได้บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เพื่อติดตามผลของการเรียกร้องสิทธิในชุมชนได้
Arvind Khare จากองค์กรริเริ่มการส่งเสริมสิทธิและทรัพยากร หรือ RRI (Rights and Resources and Initiative) ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า หลังจากที่การเรียกร้องสิทธิชุมชนได้รับการอนุมัติแล้ว สมาชิกในชุมชนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพืชปกคลุมดิน พื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในป่าและนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ได้
คุณ Khare ผู้บริหารระดับสูงของ RRI ซึ่งกำลังทดสอบแอพพลิเคชั่นนี้ในประเทศอินเดียกล่าวว่าแม้แต่ในพื้นที่ที่มีความคืบหน้าในเรื่องการรับมอบกรรมสิทธิ์อย่างมาก ก็ยังยากที่จะติดตามดูผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเรียกร้องสิทธิของชุมชน
การบันทึกและการวิเคราะห์ข้อมูลจะสามารถบอกได้ว่าแหล่งทรัพยากรใดที่ต้องการการบริหารจัดการที่ดีขึ้น เพื่อไม่ให้สูญเสียทรัพยากรเหล่านี้ไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่จะต้องถูกใช้ไปในลักษณะที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนในชุมชน
ยกตัวอย่างเช่นสมาชิกในชุมชนสามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากป่าที่พวกเขาใช้อยู่ เช่นใบไม้ ดอกไม้ เนื้อไม้ และยางไม้ เพื่อช่วยให้ง่ายแก่การตรวจสอบว่าพวกเขาไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้มากเกินไป
ข้อมูลจาก RRI ระบุว่าในขณะที่ชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นครอบครองพื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกภายใต้สิทธิตามจารีตประเพณี แต่สิทธิตามกฎหมายมีอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นักรณรงค์กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายสิทธิชุมชนปี 2006 ของอินเดีย มีประชาชนอย่างน้อย 150 ล้านคนที่สามารถเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในที่ดินป่าไม้ประมาณ 40 ล้านเฮกตาร์ (154,400 ตารางไมล์) แต่กรรม สิทธิ์ที่ได้รับมีอยู่เพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของที่ดินเท่านั้น เนื่องจากคำร้องขอส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธไป
ในขณะที่แอพพลิเคชันนี้กำลังถูกทดลองใช้ในอินเดีย คุณ Khare จาก RRI กล่าวว่าสามารถนำแอพพลิเคชั่นที่ว่านี้ไปใช้ในประเทศต่างๆ เช่นเปรู มาลี ไลบีเรียและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่องค์กร RRI สนับสนุนให้มีการเรียกร้องขอกรรมสิทธิ์ในป่ากันมากขึ้น
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ สิ่งที่บรรดาชุมชนท้องถิ่นกำลังต่อสู้อยู่ ก็เพียงเพื่อสิทธิในการได้อยู่อาศัยและใช้ทรัพยากรในป่า ซึ่งในตอนนี้พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างแท้จริง