ศูนย์วิเคราะห์ยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies - CSIS) ในกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า สามารถระบุฐานยิงขีปนาวุธในเกาหลีเหนืออย่างน้อย 13 แห่ง จากทั้งหมด 20 แห่งที่ไม่มีการเปิดเผย ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ ในการเจรจาเพื่อให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ขีปนาวุธพิสัยไกล
รายงานของ CSIS ระบุว่า จากการศึกษาภาพถ่ายดาวเทียม พบการก่อสร้างในสถานที่ที่ต้องสงสัยว่าเป็นฐานยิงจรวดดังกล่าว
รายงานยังเผยด้วยว่า สถานที่เหล่านั้นกระจายไปตามพื้นที่หุบเขาห่างไกลทั่วเกาหลีเหนือ และสามารถใช้เป็นฐานยิงขีปนาวึุธได้ในทุกระยะทำการ รวมทั้งขีปนาวุธพิสัยไกลที่โจมตีได้ถึงสหรัฐฯ
FILE - U. S. President Donald Trump shakes hands with North Korea leader Kim Jong Un at the Capella resort on Sentosa Island, June 12, 2018 in Singapore.
เมื่อเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ได้ตกลงกันว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือประกาศว่าได้สั่งปิดสถานที่ทดสอบทางนิวเคลียร์ ปุงเกรี (Punggye-ri) และโรงงานทดสอบเครื่องยนต์จรวด โซแฮ (Sohae) ไปแล้ว รวมทั้งระบุถึงโอกาสที่จะปิดสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธแหล่งอื่นๆ และอาจจะอนุญาตให้ผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศเข้าไปตรวจได้ด้วย หากว่าสหรัฐฯ มีมาตรการที่ผ่อนคลายต่อเกาหลีเหนือ
FILE - Journalists look around the third tunnel of Punggye-ri nuclear test ground before it is blown up during the dismantlement process in Punggye-ri, North Hamgyong Province, North Korea, May 24, 2018.
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ยกเลิกการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ (Mike Pompeo) ที่นิวยอร์ก โดยอ้างถึงการซ้อมรบขนาดย่อมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงที่สหรัฐฯ ทำไว้กับเกาหลีเหนือ