Your browser doesn’t support HTML5
ในขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตแอลเอยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทุกวัน ชุมชนคนไทยในพื้นที่ไทยทาวน์ มหานครลอสแอนเจเลีส ได้รับผลกระทบอย่างมาก หลายคนที่มีรายได้แบบวันต่อวัน ต้องประสบปัญหาด้านการเงิน รวมถึงขาดแคลนอาหาร ทำให้ประชาชนเกิดการรวมตัวจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” มอบอาหารให้คนไทยที่กำลังลำบาก
คนไทยจำนวนมากที่อาศัยในย่านชุมชนไทยทาวน์เขตลอสแอนเจลีสกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากคำสั่ง Safer at home อาชีพที่เคยทำอย่างเช่นงานในร้านอาหารหรือร้านนวด ซึ่งมีรายได้แบบวันต่อวันจำเป็นต้องหยุดโดยทันทีและไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าจะมีรายได้อีกครั้ง ส่งผลคนไทยกลุ่มนี้กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
“เราจะทราบดีว่าคนไทยที่แอลเอส่วนใหญ่อาชีพหลักก็คือ ร้านอาหาร ร้านนวด บางคนก็ไม่ได้ทำงานบริษัท ทุกคน Not ready to broke ... พอหยุดทำงาน รายได้หายไปทันที เขาจะอยู่อย่างไร...มีคนโทรมาถามว่ามีอะไรให้ทำไหม นี่คือที่มาของโครงการที่เห็นคนไทยเดือดร้อนมาก” คุณตัน พัฒนะ นายกสภาไทยทาวน์ในเขตเมืองลอสแอนเจลีสกล่าวถึงที่มาของกิจกรรม “ไทยช่วยไทย” ที่มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึงสัปดาห์ จุดประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของคนไทยในพื้นที่
เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้รับบริจาคจำนวนมากได้ขับรถมาที่วัดไทยลอสแอนเจลีสบนถนน Coldwater Canyon Ave ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกที่สภาไทยทาวน์ทำการบริจาคให้กับคนไทยที่ขาดแคลนจากวิกฤติครั้งนี้ สิ่งของบริจาคแต่ละชุดจะประกอบด้วยข้าวสารราว 4.5 กิโลกรัมและอาหารแห้ง
“ที่สำคัญคนไทยเราทานข้าว ที่นี่ข้าวสารหายากมาก ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทุกคนจะทราบว่าไปที่ตลาดจะไม่มีข้าวให้ซื้อ...การทานข้าวเอง ทำกับข้าวเอง ค่าใช้จ่ายที่นี่ค่อนข้างสูงมาก เราก็เลยมาคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเป็นการช่วยคนได้สักนิดนึง...ทำอย่างไรให้คน Stay at home ได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากมายนัก…วันนี้เราแจกข้าวสารคนละ 10 ปอนด์ ถ้าคนเดียวจะสามารถทานได้อย่างต่ำ 2 อาทิตย์หรือว่าเดือนหนึ่งด้วยซ้ำ เพราะ 10 ปอนด์ก็ถือว่าเยอะมาก เรามีข้าวสารอาหารแห้งหมายถึงเรามีเครื่องกระป๋อง มีมาม่า มีไข่เค็ม”
ในภาวะที่ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง ทางผู้จัดงานได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและได้มีมาตรการที่รัดกุม เมื่อผู้รับบริจาคขับรถมาถึงจุดส่งมอบจะทำการเปิดกระโปรงรถเพื่อให้อาสาสมัครวางอาหารให้ ทั้งหมดนี้เป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายรักษาระยะห่างระหว่างตัวบุคคล
“มีคนบอกว่าไม่อยากให้จัด เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ตำรวจไม่ให้ชุมนุมเกิดสิบคนอย่างที่ทราบกันอยู่...ทุก city ทุกเมืองจะมี food bank อยู่ การที่เราจะแจกของคนเพื่อให้เขาเอาไปรับประทานทำได้...อาสาสมัครทุกคนมีหน้ากากให้ใส่ มีถุงมือ มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ...เราต้องการความปลอดภัยทั้งของทั้งคนที่ให้และคนที่รับ”
ในวันนั้นมีผู้ขับรถมารับของบริจาคไปทั้งสิ้น 235 ชุด แต่หลายคนไม่สามารถเดินทางมาได้เพราะไม่มีรถหรือระยะทางที่ไกลเกินไป ทางสภาไทยทาวน์จึงได้ขอความร่วมมือไปยังร้านอาหารไทยในพื้นที่จำนวน 20 แห่ง โดยได้รับความอนุเคราะห์ที่จะจำหน่ายอาหารไทยราคาประหยัดเพื่อคนไทยในช่วงนี้
“เราร่วมกับร้านอาหารไทยในไทยทาวน์จำนวน 20 ร้าน ทุกร้านจะมีเมนูราคา 5 เหรียญซึ่งหมายถึงว่า คุณได้ข้าวสารจากเราแล้วใช่ไหม คุณสามารถสั่งเดลิเวอรี่ร้านพวกนั้นมาส่งกับข้าวแล้วคุณก็ทานข้าวได้”
นอกจากนี้ทางสภาไทยทาวน์วางแผนที่จะจัดทำคลิปภาษาไทยอธิบายการติดต่อหน่วยงานรัฐเพื่อขอความช่วยเหลือ รวมถึงการกรอกเอกสารสำคัญต่างๆ เช่นการลงทะเบียนรับสิทธิ์ผู้ว่างงาน ส่วนการแจกข้าวสารอาหารแห้งเบื้องต้นจะทำการแจกทุกวันเสาร์ไปจนถึงวันที่ 18 เมษายนนี้
ในวันที่ทุกคนประสบความยากลำบากไม่ต่างกัน การหยิบยื่นความช่วยเหลือจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และนี่คือน้ำใจที่มาจากการรวมตัวของภาคประชาชน โดยหวังว่าจะบรรเทาความทุกข์ของคนไทยด้วยกันเองที่อยู่ไกลบ้าน