ไทยเบฟเลื่อนแผนนำหุ้นบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

Chang Beer

ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (Thai Beverage Public Co) หรือ ไทยเบฟ ผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่สัญชาติไทย ประกาศเลื่อนแผนการนำบริษัทลูก เบียร์โค (BeerCo) เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ด้วยเหตุผลว่า สถานการณ์ตลาดในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนและความผันผวน ที่รุนแรงขึ้นจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ

รายงานข่าวโดย บิสซิเนส ไทม์ส (Business Times) ระบุว่า ไทยเบฟ ยื่นหนังแจ้งต่อ SGX ในเย็นวันศุกร์ตามเวลาในสิงคโปร์ว่า เนื่องจากภาพรวมในเวลานี้ไม่เอื้อต่อการนำหุ้นของบริษัทลูกเข้าซื้อตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทแล้วตัดสินใจเลื่อนแผนการดังกล่าวออกไปก่อน

สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างข้อมูลจากผู้ใกล้ชิดกับแผนงานนี้ว่า ผู้ผลิตเบียร์ช้างตั้งเป้าจะระดมทุนราว 2,000 ล้านดอลลาร์ จากการแยกบริษัทลูกออกมาและนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์

ไทยเบฟ ระบุในหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ว่า ทางบริษัท “ยังคงเชื่อมั่นในเบียร์โค ว่าเป็นธุรกิจเบียร์ชั้นนำแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ศักยภาพในการขยายตัวของบริษัทนี้ มีความแตกต่างและน่าสนใจมาก” และ “จะเฝ้าดูสถานการณ์ในตลาด รวมทั้งประเมิน และมองหาโอกาสต่างๆ อย่างใกล้ชิด .. โดยจะมีการทบทวนแผนนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง”

บลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า การเลื่อนแผนนำหุ้นของเบียร์โคเข้าตลาดสิงคโปร์ เป็นข่าวร้ายชิ้นใหญ่สำหรับ SGX ที่ตั้งความหวังรอแผนงานนี้ที่จะกลายมาเป็นการเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อประชาชน หรือ IPO ครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่กรณีของ Hutchison Port Holdings Trust ที่ระดมทุนได้ถึง 5,500 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2011

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีบริษัทนำหุ้นออกเสนอขายที่ SGX เพียง 2 ราย และระดมทุนเป็นมูลค่า 234.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าตลาดคู่แข่งในภูมิภาคอย่าง ตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกง ที่มีบริษัททำ IPO และระดมทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์ไปแล้ว

ทั้งนี้ ไทยเบฟ เปิดเผยแผนที่จะแยก เบียร์โค ที่เป็นบริษัทกลั่นเบียร์ของตน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะแบ่งหุ้นสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ออกมาเสนอขายต่อประชาชน ก่อนจะได้รับจดหมายเปิดทางให้ดำเนินแผนการดังกล่าวจาก SGX ตามรายงานของ บิสซิเนส ไทม์ส ซึ่งรายงานด้วยว่า เบียร์โค เป็นเจ้าของโรงกลั่นเบียร์ 3 แห่งในไทย และมีหุ้นในเครือข่ายโรงกลั่นเบียร์ 26 แห่งในเวียดนาม โดยมีธุรกิจหลักที่รวมทั้ง การผลิต การจัดส่งและการจำหน่ายเบียร์ 2 ยี่ห้อ อันได้แก่ เบียร์ช้าง และ เบียไซง่อน (Bia Sigon)