เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ลุกลามสร้างความเสียหายทำลายเมืองเก่าแก่บนเกาะเมาวี ในรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย และมีผู้คนนับพันต้องไร้ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงชาวเชื้อสายไทยจำนวนหนึ่งที่ประสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
“พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เพราะว่าเป็นที่ทำมาหากินของเรา บ้านเราก็หมด สปาเราก็หมด..... มันไม่เหลืออะไรแล้ว ... มันทำอะไรไม่ได้เลย นั่งงงๆอยู่นี่ค่ะ”
จงกลนีย์ นิชิมูระ วัย 60 ปี ชาวเชื้อสายไทย ในเมืองลาไฮนา บนเกาะเมาวี ในรัฐฮาวาย บอกกับ วีโอเอ ไทย ถึงการสูญเสียทั้งบ้าน และ ธุรกิจ ซึ่งเป็นแหล่งทำมาหากินของครอบครัวไปในเกือบจะพริบตา หลังไฟป่าขยายวงกว้างเข้าเผาผลาญทำลายเมืองเก่าแก่อายุหลายร้อยปีบนเกาะเมาวีแห่งนี้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไปเกือบทั้งเมือง
เปลวเพลิงจากไฟป่าลุกลามเผาอาคารในย่านธุรกิจใจกลางเมืองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งที่ตั้งของร้านนวดไทย Banyan Tree Spa ซึ่งเป็นธุรกิจที่เธอเก็บเงินทั้งชีวิตมาลงทุนเปิดกิจการได้ไม่ถึง 1 ปี ที่จมกองเพลิงเหลือเพียงเถ้าถ่านไปแล้ว
วินาทีชีวิต โกลาหล อลหม่าน!!
จงกลนีย์ บอกว่า โชคดีที่ในนาทีวิกฤต และเวลาอันจำกัด เธอตัดสินใจถูกที่ พาตัวเอง และครอบครัว อพยพออกมาได้ทันเวลา มากกว่าจะรอให้ทุกอย่างจะสายเกินไปจนสามารถรอดตายอย่างหวุดหวิด
" พอดีคืนนั้น ลมแรงมาก คือคืนวันจันทร์นะคะ ทีนี้ ไฟฟ้าก็ดับ พอไฟฟ้าดับ เรารู้แล้วละ ว่าพายุมา ชวนลูกกับสามี สามีซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ขึ้นรถ พวกเค้าไม่อยากไปเลย แต่เราส่งเสียงเย้วเข้ามาเราไม่อยู่แล้ว ชั้นไม่อยากสตาร์ทรถตอนที่ไฟมา มันจะระเบิด ..คือรถมันติด มันลงมาไม่ได้ ไฟแดงมันก็ใช้ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจเบิกไปทีละทางอย่างนี้ ซึ่งมันช้ามาก ก็เลยตัดสินใจแบบนั้นเลยค่ะ ก็ไฟทางด่วนแล้วก็บีบแตร ลั่นเลย ตายก็เป็นตาย ตายก็เอา ก็เลยออกมาได้ค่ะ ถ้าเราไม่ตัดสินใจตอนนั้น เราอาจจะตายอยู่บนถนน ที่รถติดนั้นก็ได้ เพราะว่าไฟมันตามหลังมาค่ะ นี่ค่ะ วินาทีที่รอดได้เท่านี้ค่ะ" จงกลนีย์ บอกกับ 'วีโอเอ ไทย'
สุวภา แสนสุภา พี่สาวของจงกลนีย์ ชาวชุมชนไทยที่อาศัยที่เกาะเมาวีแห่งนี้มา 20 ปี และได้สูญเสียร้านนวดที่เปิดบริการมาแล้ว 7 ปี จากเหตุไฟป่าครั้งนี้ไปด้วยเช่นกัน
สุวภา เล่าถึงวินาทีที่ต้องหนีอย่างไม่คิดชีวิต ท่ามกลางความโกลาหล ของทุกคนบนเกาะที่ต่างต้องเอาชีวิตรอด
" คือเหตุเกิดทุกครั้งทุกปี เค้าก็จะเตือนเรา แต่ปีนี้เค้าก็เตือนเราอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่ามันจะเกิดแบบนี้ ทีนี้ได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้ เราก็มองหาว่าไฟไหม้ตรงไหน แต่กลิ่นมันแรงขึ้นๆ เสร็จแล้วก็ ไปถึง 2 นาที ก็พรึ่บมาเลย ควันโขมง มาตามลม ตามพายุ พัดเอาสิ่งเอาของมาแบบ มืดฟ้ามัวดิน มองอะไรไม่เห็น หายใจไม่ได้แล้ว ไม่เอาแล้ว วิ่งหนีเลย ..วิ่งออกทางทะเล ถ้าจะไปทางถนน Main คือไปไม่ได้แล้ว รถติดตลอดเลย บนถนนมี ป้าวิ่งคนเดียว วิ่งหลบพวกที่มันมากลับพายุ พวกสังกะสีบ้าง กระเบื้องบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง มองไม่เห็น หายใจไม่ได้ เกือบไม่รอด มันมาเร็วมาก" สุวภา กล่าว
คนไทยไม่ทิ้งกัน
ด้านทัศนีย์ เปรมปรีดิ์ ยัง ชาวชุมชนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาะเมาวีมา 17 ปี และเป็นผู้ดูแลกลุ่มเฟสบุ๊ค ชมรมคนไทยในหมู่เกาะเมาวี, ฮาวาย บอกว่าทันทีที่ทราบข่าวก็พยายามใช้ช่องทางสื่อสารที่มีอยู่ประสานความช่วยเหลือชาวไทยที่ประสบภัย รวมทั้งเปิดรับบริจาค สิ่งจำเป็นในเบื้องต้น
"ตอนนี้รู้สีกจะมีประมาณ 30 คนที่เดือนร้อน ที่แจ้งเข้ามา เราก็เอาเงินตรงนี้ไปช่วย ช่วยเหลือในการเบื้องต้น เพราะว่าในอาทิตย์นี้หรือสองอาทิตย์ต่อไป เค้าต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ เค้าต้องซื้อของใหม่ เค้าต้องหาที่อยู่ใหม่.." ทัศนีย์ เปรมปรีดิ์ ยัง เล่าถึงการรวมตัวช่วยเหลือกันเบื้องต้นของชุมชนไทยในพื้นที่ และกล่าวว่า
"..เพื่อนๆ คนไทยช่วยเหลือกันอย่างดี คือความช่วยเหลือตอนนี้เริ่มกระจายไปที่คนข้างนอก ฝรั่ง คนที่เป็นคน local คนพื้นที่ ก็ออกไปช่วยไป Volunteer เค้า แล้วก็ไปส่งอาหาร คนไทยทำอาหารได้เนอะ เราก็ช่วยกันไปทำอาหาร ..เพราะคนฝั่งนั้นไม่มีร้านอาหาร ไม่มีแก๊ซ ไม่มีอินเตอร์เน็ต ต้องขนส่งเข้าไปโดยเรือ เพราะถนนไม่เปิด"
จงกลนีย์ นิชิมูระ ซึ่งขณะนี้ไปขอหลบอาศัยกับพี่ชายในที่ปลอดภัยบนเกาะเมาวี และได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากกลุ่มชายไทย บอกว่า ได้จากกลุ่มคนไทยนี่ค่ะ ซึ้งน้ำใจมากเลย น้องคนนึง เค้าเอาเสื้อผ้ามาให้ที่บ้าน มีหลานทำกับข้าวมาให้ มีผักจากฟาร์มคนไทยมาช่วย มีแต่คนไทยช่วยกันค่ะตอนนี้ อย่างอื่นยังมาไม่ถึง
SEE ALSO: ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่ารัฐฮาวายล่าสุดเพิ่มเป็น 96 รายขณะที่ นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เปิดเผยเบื้องต้นว่าได้ประสานกับนาย โคลิน มินยาบาระ (Colin Miyabara) กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย เพื่อตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาะเมาวี ที่ได้รับผลกระทบจำนวนหนึ่ง
รวมทั้งกลุ่มนักศึกษาไทยที่เดินทางมาร่วมโครงการเวิร์คแอนด์ทราเวิล จำนวน 12 คน พบว่าทุกคนยังปลอดภัยดีและพำนักอยู่ในที่ปลอดภัย และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟ ป่าในครั้งนี้
ด้านทางการท้องถิ่นในรัฐฮาวาย ได้ระดมทุกสรรพกำลัง ส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัย และอำนวยความสะดวกในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย รวมทั้งเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในเบื้องต้น