Your browser doesn’t support HTML5
thai_ambassador_condolences ceremony_pt
พิธีสวดพระอภิธรรมเพื่อบำเพ็ญกุศลให้กับนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ที่จัดขึ้นในอุโบสถวัดไทยกรุงวอชิงตัน ดีซี ในรัฐแมรีแลนด์ มีผู้เดินทางไปร่วมพิธีและไว้อาลัยจำนวนมากตั้งแต่คืนแรกของการจัดงานในวันอังคาร ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานพวงมาลา
พวงมาลาพระราชทานที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 5 พระองค์ ได้พระราชทาน และได้รับการอันเชิญไปวางในบริเวณจัดงานบำเพ็ญกุสลเพื่อเป็นเกียรติแด่นายวีรชัยที่ถึงแก่กรรมในวัย 58 ปี ขณะดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา โดยเพิ่งเข้ารับหน้าที่ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน
พวงมาลาพระราชทานที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯและพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 5 พระองค์ในงานบำเพ็ญกุศลนายวีรชัย พลาศรัย
การจากไปอย่างกะทันหันของนายวีรชัย สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย
แม้จะจากไปเร็วแต่ขอให้คนรุ่นหลังได้จดจำความดี
อาภรณี ชาวเออร์ ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่เดินทางไปร่วมงานบอกว่า น่าใจหายที่ประเทศไทยได้สูญเสียบุคลากรสำคัญที่มีความสามารถ และเป็นผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับไปก่อนเวลาอันสมควร
"มันเร็วไปค่ะ พูดอีกทีก็อยากจะบอกว่าคนดีใครๆก็อยากได้ ก็คงเป็นความสูญเสีย..ผลงานของท่านเรียกว่ามากมายมหาศาล ก็หวังว่าถึงแม้ว่าท่านจะจากไปเร็วก็จะไม่มีใครลืม แล้วก็คนรุ่นหลังโดยเฉพาะเด็กๆก็จะทำงานเพื่อชาติ หรือด้านการทูตมากขึ้น" อาภรณี ชาวเออร์ ให้สัมภาษณ์กับ "วีโอเอ ไทย"
นางอลิซาเบธ พลาศรัย ภริยาและญาติร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลให้นายวีรชััย พลาศรัย ออท.กรุงวอชิงตัน ที่วัดไทยกรุงวอชิงตันดีซี
คือแรงบันดาลใจและแบบอย่างให้เดินตาม
"ใจหายค่ะ ในฐานะที่หนูเรียนด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่ จอร์จทาวน์ (Georgetown University) ถือว่าท่านทูตฯ(วีรชัย) เป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้หนูตัดสินใจเลือกเรียนด้านกฎหมายระหว่างประเทศ"
น.ส.ทิวาพร อรรถศิวนนท์ นักเรียนทุน รัฐบาลไทย ด้านนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตัน บอกกับ "วีโอเอ ไทย" ระหว่างเดินทางไปร่วมลงนามแสดงความอาลัยที่สถานเอกอัคราชทูตไทย กรุงวอชิงตัน
ทิวาพร ให้สัมภาษณ์กับ "วีโอเอ ไทย" ว่า การทำงานเพื่อประเทศชาติของนายวีรชัยคือแรงบันดาลใจและแบบอย่างสำคัญให้เดินตาม
"ตอนที่เรียนอยู่ที่ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ก็คือมีคดีเรื่องเขาพระวิหารเกิดขึ้น ก็เห็นว่าท่านเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง ในเชิงที่ใช้การทูตและกฎหมายด้วยในการต่อสู้คดีที่ศาลโลก แล้วก็เห็นท่านเป็นเหมือน ไอดอล (ต้นแบบ) ของข้าราชการน้ำดี และก็เป็นคนที่รู้จริงรู้ลึก และจะเป็นแบบอย่างที่หนูจะเดินตามในฐานะการเป็นข้าราชการต่อไป"
สมุดลงนามแสดงความเสียใจการจากไปของนายวีรชัย พลาศรัย ออท.กรุงวอชิงตัน ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯวอชิงตัน
น.ส. วรุณกาญจน์ มนตรีโพธิ์ นักเรียนทุน รัฐบาลไทย คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตัน บอกว่า "ความรู้สึกแรกก็ใจหาย และตกใจมากๆเพราะว่าเมื่อปลายปีที่ผ่่านมาก็มีโอกาสได้เจอท่าน ท่านก็ดูสุขภาพแข็งแรงดีไม่คิดว่าท่านจะจากพวกเราไปด้วยเวลาอันรวดเร็ว ก็รู้สึกตกใจค่ะ"
พิธีบำเพ็ญกุศลที่จัดทำควบคู่กับการเปิดให้สาธารณชนเข้าร่วมลงนามในสมุดไว้อาลัยและแสดงความเสียใจ ภายในที่ทำการสถานทูตใน กรุงวอชิงตัน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา (19-20 มี.ค.) มีเอกอัครราชทูต และผู้แทนจากนานาประเทศเดินทางไปร่วมลงนามแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึง พ.ท.หญิง แทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย-สหรัฐฯจากรัฐอิลลินอยส์ ผู้แทนจากสำนักงานที่ปรึกษารองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯเช่นเดียวกับ
การทูตแบบร๊อคแอนด์โรลล์ คือพลังขับเคลื่อน
ด้าน อเล็กซานเดอร์ เฟลด์แมน (AlexanderFeldman) ประธานและผู้บริหารของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council)
"ผมประทับใจและยังจดจำแนวทาง "การทูตแบบร๊อคแอนด์โรลล์" ของทูตฯวีรชัย ที่ใช้ความสามารถทางดนตรีเป็นแรงผลักดันเชื่อมให้ผู้คนได้เข้าถึงกัน ผมขอแสดงความเสียใจในความสูญเสียเพื่อนที่แสนพิเศษของสภาธุรกิจสหรัฐฯไปอย่างน่าเสียดาย"
นายวีรชััย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย กรุงวอชิงตัน ถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อวันที่ 16 มี.ค.พ.ศ.2562 ที่นครบัลติมอร์ แมรีแลนด์
นายวีรชัย พลาศรัย ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 มี.ค. พ.ศ.2562 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการโรค MDS หรืออาการผิดปกติของไขกระดูกที่ผลิตเม็ดเลือดขาว จนลุกลามกลายเป็นมะเร็ง
Your browser doesn’t support HTML5
พิธีบำเพ็ญกุศล ทูตฯ‘วีรชัย พลาศรัย’ และร่วมอาลัยที่กรุงวอชิงตัน
ที่ผ่านมานายวีรชัย มีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความโดดเด่นในฐานะหัวหน้าคณะทนายกฎหมายระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปีพ.ศ. 2551 รวมทั้งบทบาทการทำหน้าที่เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งในช่วงก่อนเดินทางมารับตำแหน่งที่กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2561 ปีที่ผ่านมา