สถานการณ์ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ เริ่มดีขึ้น หลังประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพายุฤดูหนาวเริ่มมีไฟฟ้าใช้ แต่ปัญหาใหม่ที่ตามมาคือ การขาดแคลนน้ำประปาที่ปลอดภัยสำหรับการอุปโภคบริโภค
ชาวเท็กซัสหลายล้านคนมีโอกาสได้ใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง หลังต้องตกอยู่ในความมืดและความหนาวเหน็บเป็นเวลาหลายวันจากผลกระทบของพายุฤดูหนาวที่ทำให้โครงข่ายพลังงานไฟฟ้ามีปัญหา
แต่สำนักข่าว AP รายงานว่า ณ คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบบน้ำประปาในพื้นที่ 177 เคาน์ตี้จากทั้งหมด 254 เคาน์ตี้ในรัฐนี้ ไม่สามารถจ่ายน้ำได้เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ส่งผลให้มีประชาขนกว่า 14 ล้านคนต้องเดือดร้อน ตามข้อมูลจากคณะกรรมาธิการคุณภาพสิ่งแวดล้อมเท็กซัส
มีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดเผยแผนที่จะลงนามอนุมัติความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติให้กับรัฐเท็กซัสตามที่ผู้ว่าการรัฐแห่งนี้ร้องขอมา ทันทีที่คำร้องมาถึงมือ รวมทั้งมีแผนจะเดินทางลงพื้นที่ ถ้าการไปเยือนไม่กลายมาเป็นภาระขัดขวางการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะวิกฤติอยู่
ขณะเดียวกัน ทางการรัฐเท็กซัสได้แนะนำให้ประชาชนเกือบ 1 ใน 4 ของรัฐให้ต้มน้ำก่อนดื่ม โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองฮิวสตัน เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ ที่ ซิลเวสเตอร์ เทอร์เนอร์ นายกเทศมนตรีเมือง บอกว่า จะต้องต้มน้ำดื่มไปจนถึงอย่างน้อยวันอาทิตย์หรือวันจันทร์หน้า
ในเวลานี้ โรงพยาบาลชนาดใหญ่ 2 แห่งในเมืองนี้ประสบปัญหาไม่มีน้ำประปาเพื่อใช้งานแล้ว ทำให้ต้องยกเลิกการให้บริการรักษาที่ไม่ใช่กรณีฉุกเฉินไปก่อน
ทั้งนี้ ท่อและโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับระบบประปาหลายแห่งในเท็กซัสได้รับความเสียหาย จนทำให้แรงดันน้ำในหลายพื้นที่มีปัญหา ขณะเดียวกัน ระบบน้ำประปาในรัฐต้องทำงานอย่างหนัก หลังประชาชนเปิดน้ำให้ไหลทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีท่อน้ำแข็งตัวเพราะความเย็นและระเบิดในที่สุด
ภัยพิบัติครั้งนี้ที่กระทบหลายรัฐทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 47 คน ในจำนวนดังกล่าว 30 คนอยู่ในในรัฐเท็กซัส ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพส
ในส่วนของชาวไทยในรัฐเท็กซัสที่ได้รับความเดือดร้อน แวววรรณ แสงสว่าง ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัววัย 31 ปี ในเมืองเทมเพิล รัฐเท็กซัส เป็นหนึ่งในคนไทยในรัฐเท็กซัสจำนวนมากที่เผชิญสถานการณ์ “ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ” ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
แวววรรณบอกเล่าเรื่องราวของเธอและแฟนหนุ่มชาวอเมริกันผ่านคลิปวิดีโอในช่องยูทิวบ์ Do It with Waew ว่า ครอบครัวของเธอเผชิญกับอากาศเย็นจัดเป็นเวลานานราว 48 ชั่วโมง เมื่อวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาดังกล่าว เธอหากระดาษลังมาใช้ทำเชื้อเพลิงในเตาผิงแทนฟืนที่หมด ก่อนจะออกเดินทางเพื่อหาร้านอาหาร “เราวนรถหาร้านอาหาร 2-3 ชั่วโมง แต่ไม่มีร้านอาคารไหนเปิดเลย สุดท้ายเราต้องหาแซนด์วิชในซูเปอร์มาร์เก็ตมาทาน” เธอกล่าว “ตู้เย็นก็ไม่สามารถทำงานได้ เราต้องนำอาหารสดที่มีมาฝังไว้ในหิมะเพื่อไม่ให้อาหารเสียแทน”
แวววรรณและแฟนหนุ่มพยายามหาโรงแรมเพื่อพักค้างคืนแทนบ้านที่ไฟดับ แต่โรงแรมทั้งสี่แห่งที่เธอได้สอบถามนั้น มีผู้เข้าพักเต็มทุกแห่ง ทั้งสองจึงต้องกลับมาพักผ่อนที่บ้านแทน โดยบางช่วงเธอและแฟนหนุ่ม อาศัยอยู่ในรถยนต์และเปิดเครื่องทำความอุ่นแทน เนื่องจากมีอุณหภูมิอุ่นกว่าในตัวบ้าน “ไฟมาแบบติดๆ ดับๆ เราต้องนอนผิงไฟกันทั้งคืน” เธอระบุ “ตอนที่ไฟฟ้าพอมาบ้าง เราต้องเอาเครื่องทำความร้อนไปอังท่อ ไม่ให้ท่อน้ำที่เป็นน้ำแข็งแตก”
แวววรรณบอกกับวีโอเอไทยเมื่อวันศุกร์ว่า ขณะนี้ไฟฟ้ากลับมาแล้วแม้จะยังไม่แรงพอก็ตาม และสภาพอากาศที่ดีขึ้น หิมะเริ่มละลาย ทำให้เธอเชื่อว่าสถานการณ์ต่อจากนี้น่าจะดีขึ้น “สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในสภาพอากาศขณะนี้คือไฟฟ้า” เธอย้ำ
สถานทูตไทยประสานงานช่วยเหลือคนไทย
รัฐเท็กซัสยังมีคนไทยจำนวนมากอยู่ด้วย โดยข้อมูลของสถานทูตไทยในสหรัฐฯระบุว่า มีชาวไทยในรัฐเท็กซัสทั้งหมด 22,683 คน
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวกับวีโอเอไทยทางอีเมลว่า ได้ประสานคุณพันธุ์สัคค์ ศรีเพ็ญ นายกสมาคมไทยเท็กซัสตอนเหนือ และมีโอกาสได้คุยกับคนไทยหลายคนในพื้นที่ และทราบว่า คนไทยในพื้นที่ได้รับความลำบาก บ้านได้รับความเสียหายจากน้ำไม่ไหล เนื่องจากท่อน้ำแตกทั่วเมือง เมืองจึงต้องปิดน้ำ และไฟดับในช่วงก่อนหน้านี้
อาคารที่เสียหายนั้นรวมถึงวัดพุทธดัลลัส เมืองดัลลัส ที่ท่อท่อน้ำแตกและน้ำรั่ว เกิดความเสียหายต่อฝ้าเพดานและพรม สถานทูตจึงอยู่ระหว่างดำเนินการบริจาคเงินส่วนหนึ่งสนับสนุนการซ่อมแซมดังกล่าวว
อย่างไรก็ตาม ถึงขณะนี้ ทางสถานทูตยังไม่ได้รับแจ้งเหตุการณ์คนไทยในรัฐนี้ประสบเหตุร้ายแรง บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือหากต้องการความช่วยเหลือพิเศษ โดยทางสถานทูตมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเพื่อให้คนไทยสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทางสถานทูตได้หารือกับนายชาร์ลส์ ฟอสเตอร์ กงสุลใหญ่กิติมศักดิ์ ณ เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส เพื่อฝากให้ช่วยดูแล ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ตามความจำเป็นและเหมาะสมด้วย