พายุฤดูหนาวครั้งประวัติศาสตร์และอากาศหนาวเย็นที่ปกคลุมพื้นที่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ ทำให้ประชาชนในรัฐเท็กซัสกว่า 2.5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้
เมื่อวันพุธ รัฐเท็กซัสยังคงเผชิญกับหิมะและอุณหภูมิหนาวเย็นเป็นประวัติการณ์ โดยพยากรณ์อากาศระบุว่า อุณหภูมิจะยังคงอยู่ที่จุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่านั้นต่อไป สภาพอากาศฤดูหนาวที่ผิดปกตินี้ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก และทำให้ระบบไฟฟ้าของรัฐล้มเหลวจากปัญหาโครงสร้าง
ลินา ฮิดัลโก ผู้พิพากษาเขตปกครองแฮร์ริสซึ่งรวมถึงนครฮิวสตัน ระบุว่า ไฟฟ้าดับบางส่วนเกิดจากผลกระทบของสภาพอากาศโดยตรง ซึ่งกำลังมีการแก้ไขปัญหาอยู่
อย่างไรก็ตาม ฮิดัลโกระบุว่า พื้นที่รัฐเท็กซัสส่วนใหญ่กลับเผชิญกับ “วิกฤติที่มนุษย์สร้างขึ้น” เนื่องจากเครือข่ายเชื่อมต่อการจ่ายไฟฟ้าไปยังผู้บริโภคนั้น จัดการโดยบริษัทไม่แสวงหาผลกำไร Electric Reliability Council of Texas หรือ ERCOT และทางบริษัทควรตอบคำถามชาวเท็กซัสให้ได้ว่า ปัญหาครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
บิล แม็กเนส ประธานของ ERCOT ระบุว่า ระบบของบริษัทพยายามซ่อมแซมเพื่อรับมือกับพายุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายลงในวันจันทร์และวันอังคาร ทำให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งไม่ทำการ ในขณะที่นักการเมืองบางส่วนวิจารณ์ว่า แหล่งพลังงานสะอาดทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าถูกน้ำแข็งจับจนไม่สามารถทำงานได้
แม็กเนสระบุว่า กังหันลมบางส่วนถูกน้ำแข็งจับ แต่พลังงานไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้าพลังแก๊สธรรมชาติและถ่านหินที่ประสบปัญหานั้นมีมากกว่าถึงสองเท่า เขายังระบุด้วยว่า การปล่อยให้ไฟฟ้าดับแบบควบคุมได้เป็นทางเลือกเดียวเพื่อไม่ให้รัฐเท็กซัสเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าเลวร้ายไปกว่านี้
จนถึงวันพุธ แม็กเนสกล่าวว่า ERCOT ยังไม่สามารถระบุได้ว่าไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติเมื่อใด ในขณะที่เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส สั่งให้มีการสืบสวนสอบสวนบริษัทดังกล่าว
ทั้งนี้ พยากรณ์อากาศระบุว่า รัฐเท็กซัสและบริเวณทางตะวันออกส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ จะยังคงเผชิญกับอากาศหนาวเย็นต่อไปในช่วง 2-3 วันนี้เป็นอย่างต่ำ