เดือนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดตัวโครงการแรกภายใต้กฎหมาย CHIPS Act ที่สนับสนุนการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ในอเมริกามากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันเตือนว่า การที่สหรัฐฯ ผลักดันอุตสาหกรรมชิปคอมพิวเตอร์ในประเทศอาจส่งผลกระทบด้านความมั่นคงแห่งชาติได้
เวลานี้ บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ (Taiwan Semiconductor) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังสร้างโรงงานแห่งที่สองในสหรัฐฯ ที่รัฐแอริโซนา
ขณะเดียวกัน รัฐบาลกรุงวอชิงตันกำลังเร่งให้มีการสร้างศูนย์วิจัย พัฒนาและผลิตชิปคอมพิวเตอร์อีกสองแห่งในอเมริกาภายใต้กฎหมาย CHIPS Act ซึ่งให้ผลประโยชน์จูงใจมูลค่า 39,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการผลิตชิปคอมพิวเตอร์
จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า "ตามหลักการแล้วกฎหมายนี้คือการรับรองว่าเราจะผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่เราต้องการภายในประเทศ และกระุต้นการคิดค้นพัฒนาที่จำเป็นสำหรับอเมริกา เพื่อที่เราจะสามารถมีเทคโนโลยีและความถูกต้องในการเป็นผู้นำโลกต่อไป และรักษาความมั่นคงแห่งชาติเอาไว้"
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไต้หวันกังวลว่า ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ อาจมาพร้อมกับสิ่งที่ไต้หวันต้องจ่าย
ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน ระบุว่า ที่ผ่านมาโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ถือเป็น "โล่ซิลิคอน" ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานของจีนแผ่นดินใหญ่
SEE ALSO: รู้จัก 'มอร์ริส ชาง' คีย์เเมนชาวไต้หวันที่การประชุมเอเปคขณะที่ มอร์ริส ชาง ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor ให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า "อาจเป็นเพราะว่าบริษัทของเราคือผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ บางทีนั่นอาจทำให้ใครบางคนหลีกเลี่ยงการโจมตี ซึ่งหากว่าภารกิจสำคัญที่สุดของคน ๆ นั้นคือสถานภาพทางเศรษฐกิจ พวกเขาก็จะไม่ต้องการโจมตีเรา"
เมื่อเดือนมกราคม บริษัท Taiwan Semiconductor ประกาศว่า กำลังพิจาณาแผนสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นและยุโรป ต่อมาไม่นาน รัฐบาลไต้หวันประกาศผ่านกฎหมาย CHIPS Act ของตนเองเพื่อปกป้องสถานะ "โล่ซิลิคอน" ของตนเอาไว้
แอนเดรีย วิสกี นักวิเคราะห์แห่งศูนย์ Stimson Center ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า "กฎหมาย Chips Act ฉบับใหม่ของไต้หวัน คือสิ่งที่ไต้หวันพยายามทำเพื่อรักษาสมดุลการผลิตชิปคอมพิวเตอร์นอกไต้หวัน ด้วยการรับรองว่าจะไม่เป็นการโยกการผลิตออกไปจากไต้หวันทั้งหมด และไต้หวันยังคงถือความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีนี้"
นักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้ด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ต้องการปกป้อง 'โล่ซิลิคอน' นี้เช่นกัน โดยเมือเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้เปิดตัวการประชุมเพื่อความร่วมมือกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในการสกัดกั้นจีนจากการเสริมศักยภาพด้านการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ล้ำสมัยของจีนเอง "เป้าหมายเพื่อให้จีนยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพราะหากว่าจีนสามารถผลิตเทคโนโลยีนี้ด้วยตัวเองทั้งหมด ก็อาจถึงคราวสิ้นสุดของ 'โล่ซิลิคอน' ของไต้หวันได้"
ถึงกระนั้น สัญญาณที่เกิดขึ้นทางฝั่งของกรุงวอชิงตันในขณะนี้ คือการสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ไต้หวัน ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นเดือนนี้ รัฐบาลไบเดนได้อนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 629 ล้านดอลลาร์แก่ไต้หวัน รวมทั้งการผ่านกฎหมาย Taiwan Policy Act เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจัดหาเงินกู้มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ไต้หวันเพื่อใช้ในการซื้ออาวุธด้วย
- ที่มา: วีโอเอ