อิสราเอลโจมตีซีเรีย สังหาร 18 ชีวิต มากสุดนับตั้งแต่สงครามกาซ่าปะทุ

แฟ้มภาพ - ทหารอิสราเอลประจำการบริเวณที่ราบสูงโกลันใกล้ชายแดนซีเรีย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2023

จำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในซีเรียตลอดคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 18 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน ถือเป็นการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในซีเรียมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามในกาซ่าปะทุขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขซีเรีย

สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างแหล่งข่าวทางทหารว่า หนึ่งในพื้นที่ที่ถูกโจมตีในซีเรีย คือศูนย์วิจัยที่ถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธ ขณะที่ทางการซีเรียระบุว่ามีเป้าหมายที่เป็นของพลเรือนถูกโจมตีด้วย

ที่ผ่านมา อิสราเอลมักโจมตีใส่เป้าหมายทางทหารในซีเรียที่มีความเชื่อมโยงกับอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งการโจมตีลักษณะนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง เมื่อกลุ่มเฮซบอลลาห์และกองทัพอิสราเอลระดมโจมตีใส่กันและกันรุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในซีเรียเมื่อคืนวันอาทิตย์ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทางอิสราเอลยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในกรณีนี้

อิสราเอล ประกาศไว้ว่าจะพยายามยับยั้งไม่ให้อิหร่านขยายกำลังเข้าไปในซีเรียซึ่งถือเป็นเส้นทางสำคัญที่อิหร่านใช้ลำเลียงอาวุธส่งให้กับกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน

Your browser doesn’t support HTML5

สงครามกาซ่าใกล้ครบ 1 ปี เนทันยาฮูลั่นเดินหน้าสู้กับฮามาส

การโจมตีในวันอาทิตย์สร้างความเสียหายหลายพื้นที่ในแถบตอนกลางของซีเรีย ทำลายถนนสายหลักเส้นหนึ่งในจังหวัดฮามา และทำให้เกิดไฟไหม้หลายจุด ตามรายงานของสื่อทางการซีเรีย

รัฐมนตรีสาธารณสุขซีเรีย ฮัสซาน อัล-กับบาช เรียกการโจมตีของอิสราเอลว่า "ความก้าวร้าวที่โหดร้ายและป่าเถื่อน" ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บเกือบ 40 คน

ด้านองค์กร Syrian Observatory for Human Rights ในอังกฤษ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 25 คน รวมทั้งพลเรือนอย่างน้อย 5 คน ที่เหลือคือทหารซีเรีย สมาชิกกลุ่มเฮซบอลลาห์และกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับอิหร่าน

องค์กรติดตามตรวจสอบการโจมตีในซีเรีย ยังบอกด้วยว่า เป้าหมายหนึ่งที่ถูกโจมตี คือ ศูนย์วิจัยด้านวิทยาศาสตร์ในเมืองมาซีอาฟ และสถานที่อื่น ๆ ซึ่งถูกใช้เป็น "สถานที่พัฒนาอาวุธในซีเรียที่มีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธของอิหร่านประจำการอยู่" โดยคาดว่ามีการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลาง รวมทั้งโดรน ที่ศูนย์แห่งนั้นด้วย

รัฐมนตรีกระทรวงไฟฟ้าของซีเรีย โมฮัมหมัด อัล-ซาเมล กล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเครือข่ายโครงสร้างไฟฟ้าและน้ำประปา "เป็นการโจมตีอย่างโหดร้ายต่อเป้าหมายที่เป็นพลเรือน อีกทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่ก็เป็นประชาชนทั่วไปด้วย"

โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติ ร่วมประชุมสภาสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 57 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ 9 ก.ย. 2567

ขณะเดียวกัน โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติ กล่าวในวันจันทร์ว่า การทำให้สงครามในกาซ่ายุติลง “และการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะความขัดแย้งในภูมิภาคแบบเต็มตัว คือ สิ่งที่มีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ที่เร่งด่วนและจำเป็นอย่างที่สุด”

เติร์ก กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนยูเอ็นที่นครเจนีวาด้วยว่า สงครามครั้งนี้ได้ขยายวงตกทอดไปสู่คนรุ่นใหม่แล้ว ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการวนของวัฏจักรแห่งความเกลียดชังต่อไปในอนาคต หากปัญหาต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้จบลง

ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนยูเอ็นยังได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ การโจมตี “อันน่าสะเทือนขวัญ” ของฮามาสเข้าใส่อิสราเอล การที่ชาวกาซ่าราว 1.9 ล้านคนต้องถูกบังคับให้กลายเป็นคนพลัดถิ่น และการที่ชาวอิสราเอล 101 คนยังถูกจับเป็นตัวประกันในกาซ่า รวมทั้ง “ปฏิบัติการทำลายล้างร้ายแรง” ในเขตเวสต์แบงก์ที่ “ทำให้สถานการณ์ในภาวะหายนะนั้นเลวร้ายลงไปอีก” ด้วย

  • ที่มา: เอพี