เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในระหว่างการจัดกิจกรรมทางการเมืองของปากีสถานในแคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา ทางตอนเหนือของประเทศในวันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 รายและบาดเจ็บกว่า 130 คน ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น ขณะที่พรรค จาเมียต อูเลมา อิสลาม-ฟาซัล (Jamiat Ulema Islam-Fazl) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหัวอนุรักษ์นิยมที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มคนอิสลามที่มีแนวคิดรุนแรงด้านการเมือง จัดกิจกรรมชุมนุมในพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ มีการประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นทันทีในพื้นที่ที่ตั้งของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่รับผู้ประสบเหตุเข้ารักษาตัว โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทหารจากโรงพยาบาลเขตบาจอร์ (Bajaur) ไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลในเมืองเปชวาร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่กว่า
แถลงการณ์จากหน่วยกู้ภัย Rescue 1122 ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน
นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เกิดเหตุการโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธอิสลามในปากีสถานหลายต่อหลายครั้ง หลังการหยุดยิงระหว่างกลุ่มปากีสถานตาลิบัน หรือ Tehrik-e-Taliban Pakistan (TTP) และรัฐบาลกรุงอิสลามาบัดสิ้นสุดลง
และแม้กลุ่ม TTP และกลุ่มอื่น ๆ ที่ใกล้ชิด มักเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงใหญ่ ๆ ทั้งหลาย โฆษกของกลุ่มออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในวันอาทิตย์ ทั้งยังกล่าวประณามด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอัฟกานิสถานก็ออกมาประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ในแถลงการณ์ที่ออกโดย ซาบิฮัลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกรัฐบาลตาลิบัน
รายงานข่าวระบุว่า พรรค จาเมียต อูเลมา อิสลาม-ฟาซัล ที่เป็นเป้าหมายการก่อความรุนแรงครั้งล่าสุดนี้เป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชาริฟ ซึ่งกำลังจัดเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายกฯ ชาริฟ ออกมาประณามเหตุการณ์ครั้งนี้พร้อมระบุว่า เป็นการโจมตีกระบวนการทางประชาธิปไตยของปากีสถาน และสัญญาว่า จะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
- ที่มา: รอยเตอร์