ผู้แทนจากกองทัพและกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) นั่งร่วมโต๊ะเจรจากันในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการหารือในนครเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อสรุปรายละเอียดการเปิดเส้นทางขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซูดาน แต่จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีสัญญาณความคืบหน้าการเจรจานี้
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า การเจรจาในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในประเทศของตน แต่ไม่ได้จะมีการเจรจาเพื่อสงบศึก
การเจรจาดังกล่าวที่เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ มีซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลางช่วยจัดและยังเสนอความช่วยเหลือมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ให้ซูดานด้วย
ทั้งนี้ ความพยายามที่จะให้มีการหยุดยิงนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายนไม่ได้ประสบความสำเร็จดังหวัง โดยพยานในกรุงคาร์ทูม บอกกับ วีโอเอ ว่า ยังมีเสียงปืนดังขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งมีการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ใจกลางและรอบ ๆ เมืองหลวงของซูดาน ในวันจันทร์ด้วย
เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี ในวันจันทร์ ด้วยว่า การพูดคุยระหว่างสองฝ่ายในเจดดาห์แทบ “ไม่มีความคืบหน้า” และว่า “การหยุดยิงเป็นการถาวรนั้นไม่ได้เป็นประเด็นหัวข้อเจรจาเลย ... ทุกฝ่ายเชื่อว่า ตนสามารถที่จะเอาชนะการสู้รบได้”
หนังสือพิมพ์ The Sudan Tribune รายงานในวันจันทร์ว่า ผู้แทนการเจรจาของฝ่ายกองทัพซูดานเสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ อันได้แก่ ให้อาร์เอสเอฟถอนกำลังออกจากคาร์ทูมโดยไม่มีเงื่อนไข การยืดระยะเวลาการสงบศึกเพื่องานด้านมนุษยธรรม และการผนวกกองกำลังอาร์เอสเอฟเข้ากับกองทัพซูดานภายใน 2 ปี
รายงานข่าวกล่าวด้วยว่า “ยังไม่มีความชัดเจนว่า ตัวแทนเจรจาอาร์เอสเอฟจะตอบข้อเรียกร้องเหล่านี้อย่างไร”
ขณะเดียวกัน ประชาชนชาวซูดานต่างก็กำลังรอคอยผลการหารือครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ เช่น ซูเมยา มูซา ที่หนีภัยจากคาร์ทูมมาอยู่ที่รัฐอัลจาซีราห์ ของซูดาน บอกกับ วีโอเอ ว่า เธอหวังว่า การเจรจานี้จะนำไปสู่การสงบศึกที่จะทำให้เธอสามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยเสียที
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี